เรื่องเล่าจากยอดดอย 3
ทุกครั้งที่ผมขึ้นดอยจะได้เจอ ไอ้หนุ่มสายซิ่งบนดอยคนนี้ เจ้าของรถโฟร์วีลยี่ห้อโตโยต้า ที่พาเราขนของขึ้นไปแจกชาวบ้าน
รถของเขามีเอกลักษณ์ตรงที่ใช้แตรเสียงดัง เหมือนแตรลมของรถดีเซลราง เวลาเราขับขึ้นดอย ลงดอย เจอทางโค้งจะบีบแตรให้สัญญาณกัน เสียงแตรรถคันนี้จะดังมาก จนมั่นใจได้ว่าคนที่ขับสวนลงมาต้องได้ยิน
ผมเคยถามคนแถวนี้ว่าทำไมใช้แต่โตโยต้า เขาตอบว่า
"อีซูซุ มันไม่สู้ดอยครับ" ... ไม่รู้จริงหรือเปล่า
"หน่อก๊วย" เป็นชื่อของเขา เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่ากระแต หรือ กระรอก ดังนั้นชื่อไทยของเขาเลยชื่อกระรอกไปด้วย เขาขับรถได้คล่องแคล่ว เหมือนรู้ทุกเส้นทางบนนี้ และคล้าย ๆ จะรู้จักคนแทบทุกหมู่บ้าน
บ้านของ หน่อก๊วย ไม่ได้อยู่ที่กอมูเดอ แต่อยู่ที่แม่ปอง พอหลวงพ่อมาสร้างสำนักสงฆ์ที่กอมูเดอ หน่อก๊วย ก็มาอยู่ช่วยงานหลวงพ่อที่นี่
หน่อก๊วย ผูกเปลนอนอยู่ในโรงครัว ไม่ไกลจากกุฏิหลวงพ่อ ห่างกันพอที่จะได้ยินเสียงเวลาหลวงพ่อเรียกใช้
"หน่อก๊วย" ... ไฟดับ
"หน่อก๊วย" ... น้ำร้อนหน่อย
"หน่อก๊วย" ... น้ำไม่ไหล
และอีกมากมาย ช่วงเช้าหลังจากจัดอาหารถวายหลวงพ่อแล้ว หน่อก๊วย กับ เพื่อน ๆ จะขึ้นไปเลื่อยไม้ที่ตาย ล้มอยู่บนเขาด้านหลัง ช่วยกันแบก หาม ลากกันลงมา เพื่อสร้างศาลา เป็นประจำทุกวัน
วันไหนหลวงพ่อให้ไปเอาของในเมืองก็ให้หน่อก๊วยขับรถลงไป สลับกันกับวิโรจน์และพี่ตู่
เมียของหน่อก๊วย เย็บผ้าเก่ง ย่ามที่ให้พวกเรามา ใบที่เมียหน่อก๊วยเย็บเอง ฝีมือละเอียดมาก จนผมต้องขอไว้ใช้เอง เมียหน่อก๊วยชื่ออะไรผมจำไม่ได้ซักที แต่ก็มาช่วยทำกับข้าว ดูแลพวกเราและทีมงานที่ขึ้นมาทุกคนอยู่เสมอ
วันนี้เลยบันทึกความทรงจำไว้ซักหน่อย เพื่อไว้ระลึกถึงชาวดอยที่มีน้ำใจสองคนนี้ ก่อนจะเล่าเรื่องอื่นต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น