วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รถนักเรียน รถแม่ค้า รถท่าขนอน

รถนักเรียน รถแม่ค้า รถท่าขนอน

รถท้องถิ่นที่ 490 คีรีรัฐนิคม - สุราษฎร์ธานี ในยามเช้าของทุกวัน นั่งมองภาพนี้แล้ว คิดถึงสมัยเด็กๆ เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว จะมีตู้ ตญ. หรือตู้สินค้าพ่วงมาด้วยอีก สองตู้ ในนั้นจะมีสินค้าท้องถิ่น จำพวกยางพาราแผ่น หรือหวายเป็นมัดๆ รวมทั้งผัก ผลไม้ อยู่ในนั้น ตำนานการโบกแล้วจอดของรถไฟสายนี้ ก็มาจาก กะละมังใบใหญ่ของแม่ค้าเหล่านี้ละครับ


ตอนนั้นจะเป็นที่รู้กันว่าแม่ค้า หรือคนที่มีสัมภาระ เป็นเข่ง กะละมังก็จะขึ้นตู้สินค้าด้านหน้ามา ไม่ได้นั่งรวม ขนรวมกันมาในตู้โดยสารเหมือนสมัยนี้ เมื่อมาถึงสุราษฎร์ธานี ถ้ามีสินค้าใหญ่ๆ หรือมีจำนวนมาก น้ำหนักมาก เช่นยางพาราแผ่นที่ทำเป็นมัดๆ รถไฟจะตัดตู้สินค้า มาจอดไว้ให้ที่รางตัน ทางที่หนึ่งด้านใต้ บริเวณแถวๆสนามเทนนิส ที่ตอนนี้กลายเป็นสนามฟุตบอล (และเป็นที่ถ่ายภาพรถไฟตอนเช้าของผม) เพื่อขนถ่ายสินค้า แต่ตอนนี้รางตันตรงนี้ยกเลิกใช้ไปแล้ว ไปใช้งานด้าน ทรส. ริมแม่น้ำตาปีอย่างเดียว

แถวๆสนามเทนนิส หรือสนามบอลตอนนี้ มาจนถึงป้ายสถานีด้านใต้ ในช่วงนั้นจะเป็นลานกว้างๆ ตึกแถวไม้ ริมถนนจะมีร้านรับซื้อสินค้าผลผลิตทางการเกษตร ที่คอยรับซื้อสินค้าจากชาวบ้านที่ขนมาทางเรือ หรือ ทางรถไฟสายคีรีรัฐนิคม เพราะในสมัยนั้นถนนหนทางยังมีไม่ทั่วถึง รถยังไม่มีกันทุกบ้านเหมือนสมัยนี้ คนริมแม่น้ำตาปี พุมดวง จะล่องเรือนำของมาขึ้นที่ท่าข้าม ดังนั้นร้านพ่อค้าคนกลางรับซื้อของจึงอยู่แถวนี้กันมาก

ลานกว้างๆริมถนนติดทางรถไฟ เป็นที่ตากหวายบ้าง มะพร้าวแห้ง หมากแห้ง และอะไรๆอีกมากมายของร้านค้าเหล่านั้น สมัยเด็กผมถามพ่อว่า นั่นอะไร พ่อบอกว่าหวาย ผมเถียงในใจว่าไม่ใช่ แต่ไม่กล้าพูด ก็ที่ตากอยู่มันเป็นเส้นเรียบๆ แต่หวายที่บ้านเรามันมีหนาม ... พ่อผมมั่วแน่ๆ

รถท้องถิ่นขบวนนี้มีเรื่องราวอีกมากมายที่นั่งเล่ากันทั้งวันก็คงจะไม่จบแน่นอน เวลารถขบวนนี้เสียเวลา เพื่อนๆผมก็ได้ร่วมกันเหมาแท๊กซี่ จากสถานีรถไฟไปโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ให้ใครๆอิจฉาเล่นว่ามัน โก้เนอะ นั่งรถเก๋งมาเรียนกันเลย

เรื่องตลกที่ว่ารถไฟยางรั่ว ผมได้ยินครั้งแรกก็เพราะรถไฟสายนี้ละครับ เวลาเพื่อนที่มาจากท่าขนอน เข้าเรียนสาย ครูจะแซวว่า "รถไฟยางรั่วอยู่เหรอ" และเมื่อเวลาผ่านมาเกือบสามสิบปี ผมก็ยังได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนเดิม เรียกว่าเป็นมุข อมตะ นิรันดร์กาล พอๆกับรถไฟขบวนนี้เลยทีเดียว

นี่ถ้าให้เล่าถึงเรื่อง รักครั้งแรกของไอ้หนุ่มบ้านป่า กับสาวหมวย ลูกจีนในตลาดท่าข้าม ที่จะได้เจอกันในตอนเช้า พระเอกมารถไฟ สาวหมวยเดินมารอรถเมล์ที่หลังสถานี เพื่อจะไปเรียนในเมืองบ้านดอนพร้อมกัน ไหนจะฉากที่ พระเอก นางเอก ร่ำลากันทุกเย็นที่สถานีรถไฟ รวมทั้งการที่หนุ่มท่าขนอนนั่งรถไฟมาท่าข้ามในวันเสาร์ ด้วยเหตุผลว่ามาทำรายงาน แล้วพาสาวท่าข้ามไปดูหนังที่ลิโด้ด้วยกัน ... ฯลฯ

โอ้ ... ตำนานรักท่าข้ามชัดๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น