วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เลอฌอ เพลงฟ้าเดียวกัน

เมื่อประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมได้ไปเดินเล่นในงานแสดงสินค้า หรือเทศกาลอาหาร อะไรงานอะไรซักอย่างก็จำไม่ได้ที่แถวๆริมแม่น้ำตาปี ที่บอกว่าจำไม่ได้ก็เพราะว่า แถวๆนั้นจัดงานเยอะมาก เรียกได้ว่าถนนริมน้ำบริเวณนั้นจัดงานกันแทบทุกเดือนก็ว่าได้ เวลาผมขับรถไปทำงานก็จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่เข้าไปบริเวณนั้นอยู่แล้ว ยอมขับอ้อมออกมาทางถนนเลี่ยงเมืองที่ไกลกว่าปกติเกือบสิบกิโลเมตร แต่ก้ดีกว่าไปหงุดหงิดเพราะรถติดที่แถวๆนั้นครับ

วันนั้นเป็นวันที่ 20 มีนาคม 2553 ที่จำได้เพราะที่วัดโพธาวาส มีงานพุทธาภิเษกพระเครื่องหลวงพ่อกล่อมอยู่ด้วย เลยจำวันที่ได้แม่นยำนิดนึง ผมเดินเล่นไปเรื่อยๆมองดูสินค้า ที่เห็นอยู่ทั่วๆไปเวลาที่มีงานประเภทนี้ เสื้อผ้า ของที่ระลึก และบู๊ทต่างๆของบริษัท รถยนต์ โทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ ผมเดินไปแบบไม่มีจุดหมายโดยผมเริ่มเดินจากฝั่งเวทีดนตรี สี่แยกวัดโพธาวาส ไปทางสะพานข้ามแม่น้ำตาปี เดินไปจนเกือบจะสุดงานแถวๆหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ผมก็สะดุดหูกับเสียงเพลงที่เปิดอยู่ในขณะนั้น เป็นเพลงอะไรผมก็จำไม่ได้แล้ว เพราะไม่เคยฟัง แต่ที่ทำให้ผมสนใจมากๆก็คือมีเสียงร้องของเด็กผู้หญิง เสียงใสๆ อยู่ในเพลงนั้นด้วย

เมื่อมองไปที่ริมถนนบริเวณนั้นก็เห็นมุมเล็กๆ มีแผงขาย CD มีเวทีเล็กๆที่คาดว่าน่าจะเล่นดนตรีสดๆกันด้วย แต่ขณะนั้นมีแต่เสียงเพลงจาก CD เท่านั้น ผมเดินเข้าไปดุ แผง CD เล็กๆที่วางอยู่เห็นมีอยู่ หลายแบบอยู่เหมือนกัน "ชมก่อนนะเจ๊า" "เพลงนี้ฮ้องกับลูกสาวเจ๊า" ผมเงยหน้าขึ้นไปมองก้เห็น ผู้หญิงที่ดูจะขาวๆ ผมยาวๆ แววตาเหมือนมีความสุขตลอดเวลา กำลังยื่นแผ่น CD มาให้ผมดู พร้อมอธิบายว่าเพลงเหล่านี้ แต่งเอง เล่นเอง ร้องเอง แล้วก็ขายเอง

"เลอฌอ"ชื่อบนปก CD ที่เขียนอยู่ทำให้ผมคิดถึงชื่อ ตุ้ม เลอฌอ ขึ้นมาทันที แต่ไม่ใช่ว่าผมจะรู้จักวงดนตรีวงนี้นะครับ แต่เคยเห็นชื่อนี้ในหนังสือรวมเพลงเพื่อชีวิต เมื่อ สิบกว่าปีที่แล้ว ผมเลือกๆดูก็หยิบมาอย่างละแผ่น ทั้งหมด หกแผ่นแล้วส่งให้ สาวผมยาวที่ดูใจดีคนนั้น "ยินดีเจ๊า" ได้ยินเสียงคำเมืองออกมาอีกครั้งแต่เมื่อเธอเห็นว่าผมเลือกมาทั้งหกแผ่นก็บอกว่า ถ้าเอาทั้งหมดทางวงมีเป็นชุดใส่ถุงผ้าให้ด้วย "อ้าวแล้วก็ไม่บอก 555+" (คิดในใจนะครับไม่กล้าพูด) แล้วเธอก็หยิบ ถุงผ้าใส่ CD มาให้ผม แล้วก็ชี้ที่ถุงพร้อมทั้งบอกว่า "อย่าลืมเข้าไปชมเวบไซด์ นะเจ๊า" ผมก็กะว่ากลับมาถึงบ้านแล้วก็จะเข้าไปชมอยู่เหมือนกัน แต่เหมือน CD อาถรรพ์เลยครับ ตั้งแต่ได้มา ผมมีงานทุกวัน ไม่ได้หยุดได้หย่อน จนกระทั่งวันนี้ 29/5/2553 ผมถึงจะได้มีโอกาสหยิบ CD เหล่านี้มาฟัง

ฝากเวบไซด์ของเลอฌอไว้ด้วยนะครับ www.lerchor.com ทำได้น่ารักดีครับ

ปกติผมเป็นคนที่ชอบซื้อแผ่นแท้ เพราะชอบอ่านเครดิตในปกเทป ปก CD อยู่แล้ว บางแผ่นผมซื้อมายังไม่ได้แกะออกมาฟังเลยก็มี บางเพลงมีเพื่อนๆส่งเมล์มาให้ แต่ผมก็ยังต้องดั้นด้นไปซื้อแผ่นแท้มาเก็บไว้ การซื้อแผ่นแท้นี่ทำให้ผมกลายเป็นตัวประหลาดในที่ทำงานมาหลายครั้งแล้วครับ มีแต่คนถามว่า อ้าวเพลงนี้ยังไม่มีเหรอ ซื้อทำไม ของพี่มี MP3 ทั้งชุดแล้ว อะไรทำนองนั้น แต่ผมก็พยายามอธิบายให้พี่ๆเพื่อนๆเข้าใจว่า ความสุขของผมคือการได้ฟังเพลง ได้อ่านเรื่องราวในปก CD ได้ดูภาพประกอบได้มีความสุขกับสิ่งที่สัมผัสได้ การที่เราโหลดเพลงมาฟังหรือซื้อ MP3 รวมที่ขายในตลาดนัดมาฟัง มันไม่มีความรู้สึกของการมีส่วนร่วมในงานเพลง ที่ศิลปินพยายามสื่อออกมาให้เราได้รู้เลย แต่ก็ไม่เคยมีใครสนใจคำอธิบายของผมเลยแม้แต่คนเดียว

มาถึงงานเพลงของเลอฌอกันต่อครับ ผมนั่งฟังเพลงของเลอเฌอไปทีละแผ่น พร้อมทั้งอ่านเรื่องราวในปก CD ดูเนื้อร้อง ไปด้วย ในความรู้สึกคือ ไม่แพงเลยครับสำหรับงานดีๆที่ใส่ใจคนฟังแบบนี้ เพลงบางแผ่นที่ผมซื้อมาออกแบบปกแบบดูถูกคนฟังแบบผมมาก คือไม่มีอะไรในปกเลย นอกจากรูปศิลปินด้านหน้า ส่วนด้านในว่างเปล่าใช้กระดาษบางๆพิมพ์มาแบบลวกๆ ผมจะจำไว้แล้วจะไม่ซื้ออีกเป็นครั้งที่สองครับ ปก CD ของเลอฌอ มีเรื่องราวมากมายที่อยู่ในนั้น ทั้งรูปภาพ เนื้อเพลง พร้อมคอร์ดกีตาร์ ในบางแผ่น ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความรักและความอบอุ่นของบ้านหลังนี้ น้องผักกาด ก็ดูสดใสร่าเริ่งสมวัย แต่ละอย่างที่นำมาให้ชมก็รู้ได้ถึงความตั้งใจสร้างผลงาน แบบนี้ละครับที่เรียกว่า "ศิลปะ" ผมฟังเพลงไปด้วยดูเนื้อเพลงไปด้วย ดูรูปไปด้วย ฟังเพลงไปเรื่อยๆ นานแค่ไหนผมก็จำไม่ได้ รู้แค่ว่าเริ่มฟังตั้งแต่ฝนยังไม่ตก จนตอนนี้ฝนหยุดไปนานแล้ว แต่ผมก็ยังเปิดเพลงไปเรื่อยๆ

เพลงเด่นๆของเลอฌอ มีมากมายหลายเพลงเลยครับ ฟังสบายๆ ไม่หนักไม่เครียด หลายๆคนคงจะได้ฟังได้อ่านมาจากที่อื่นๆกันมามากพอสมควร แต่ที่อยากจะแนะนำเป็นพิเศษ คือเพลง ฟ้าเดียวกัน ครับ

เพลงฟ้าเดียวกันเป็นเพลงลำดับที่ 6 ในอัลบั้มชุดที่ 5 ของเลอฌอ ที่มีชื่ออัลบั้มว่า บ้านแสนรัก ผมฟังเพลงนี้หลายรอบมาก การร้องร่วมกันของทั้งสามคนดูอบอุ่นกลมกลืนแบบเป็นธรรมชาติมาก เนื้อร้องของเพลงนี้บ่งบอกให้รู้ถึงการศึกษาเส้นทางธรรมะของผู้แต่งได้เป็นอย่างดีเลยครับ ดนตรีทำออกมาแบบฟังดูง่ายๆแต่มีความเก๋าอยู่ในตัว ไม่รก ไม่บ้าพลัง ร้องแบบสบายๆ สรุปว่าชอบครับ ลองไปหามาฟังกันนะครับ แล้วฝากถึงพวกที่เข้ามาแล้ว โพสต์กระทู้ว่า "ไม่มีให้โหลดเหรอ" ด้วยนะครับว่า ที่นี่ไม่มีให้โหลดโว๊ยๆๆๆ ไปซื้อแผ่นแท้ ไปโหลดแบบถูกกฏหมาย มาฟังกันบ้างเถอะครับ สงสารคนที่เขาตั้งใจทำงานออกมากันบ้าง

เพลงฟ้าเดียวกัน
คำร้อง/ทำนอง ประพัฒน์ มณเฑียรทอง (ตุ้ม เลอฌอ) พนิศร คณะรัฐ (ติ๊งต่อง)

ฟ้าผืนเดียว ดินแผ่นเดียว
จันทร์ดวงเดียว ใจเดียวกัน
ดวงตะวันสาดส่องแสงทุกแห่งหน
ผ่านชีวิตการต่อสู้รู้ทุกข์ทน
ชีวิตวนเวียนไป ไม่แน่นอน

ต่างคน ต่างคิด คนละอย่าง
ต่างคน ต่างเลือกทางตามหัวใจ
สิ่งใฝ่ฝันต้องฟันฝ่านานเท่าใด
กว่าจะไปถึงจุดหมายที่ต้องการ

เลือกเดินเหยียบย่ำหลังผู้อื่น
หรือกอดคอหยัดยืนไปพร้อมกัน
คนเข้มแข็งร่วมเรี่ยวแรงพร้อมแบ่งปัน
อยู่ร่วมกัน สร้างสรรค์ สร้างโลกงาม

ลันลา...ลันลา...ลันลาๆ... อยู่ร่วมกันสร้างสรรค์ สร้างโลกงาม

ฟ้าผืนเดียว ดินแผ่นเดียว
จันทร์ดวงเดียว ใจเดียวกัน
ดวงตะวันสาดส่องแสงทุกแห่งหน
ผ่านชีวิตการต่อสู้รู้ทุกข์ทน
ชีวิตวนเวียนไป ไม่แน่นอน

จิตคน ที่สูงจึงเป็นคน
ธรรมชาติสร้างคน คนสร้างใคร
อยู่เทียมฟ้าสูงเทียมเมฆ
ดาวดวงไหน ร่วงหล่นไปอยู่แห่งใด..ใครจะรู้

ไม่นาน หลับฝันพลันต้องตื่น
เส้นทางธรรมจะฝืนได้อย่างไร
เสี้ยวชีวิตอันน้อยนิด คิดมากมาย
แต่สุดท้ายจิตจากกายไปสู่ที่ใด

ลันลา...ลันลา...ลันลาๆ...แต่สุดท้ายจิตจากกายไปสู่ที่ใด

ฟ้าผืนเดียว ดินแผ่นเดียว
จันทร์ดวงเดียว ใจเดียวกัน
ดวงตะวันสาดส่องแสงทั่วแห่งหน
ผ่านชีวิตการต่อสู้รู้ทุกข์ทน
ชีวิตวน เวียนไป ไม่แน่นอน


เพลงนี้ได้อารมณ์ของคนที่อยากจะหลบหลีกหนีความวุ่นวายต่างๆเป็นอย่างมาก คล้ายๆกับเพลงของ จีวัน ที่นำเอาคำสอนของท่านพุทธทาสมาเรียบเรียงเป็นบทเพลงที่ให้สาระ สร้างแนวคิดก่อให้เกิดความสุขสงบขึ้นในจิตใจได้โดยที่ไม่ต้องออกไปแสวงหาที่ไหน เพียงแค่หามุมสงบๆ แล้วเปิดเพลงนี้ฟัง ความสุขก็วิ่งเข้ามาหาแล้วละครับ

ขอบคุณเลอฌอ ที่สร้างงานดีๆแบบนี้ขึ้นมาในโลก และผมก็ยังมั่นใจว่างานศิลปะ เสียงเพลง และบทกวี ที่ถ่ายทอดออกมาจากจิตวิญญาณและความรู้สึกเหล่านี้ ดีกว่า ชิมิ ชิมิ อย่างเทียบกันไม่ได้เลยครับ ถ้าเรามีคำศัพท์ว่า อาหารขยะ Junk Food แล้วละก็ เพลงแนวๆนั้นก็คงจะเป็น Junk Song ด้วยเช่นกัน นานๆกินที นานๆฟังที ก็คงจะไม่เป็นไร แต่ถ้ากินบ่อยๆ ฟังบ่อยๆ junk Food Junk Song ก็สามารถฆ่าเราให้ตายไปอย่างช้าๆได้เหมือนๆกันครับ

ด้วยจิตคารวะแด่คนดนตรี และเสียงเพลงที่สื่อสาร จากใจถึงใจ

นภดล 29/5/2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น