วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

ศาลาหลักเมืองอุดรธานี

ศาลาหลักเมืองอุดรธานี

ที่มา https://sites.google.com/site/salhlakcanghwadxudrthani/prawati-khwam-pen-ma


ศาลาหลักเมืองอุดรธานี หรือที่เรียกว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุดรธานี เป็นศูนย์รวมความเคารพและความศรัทธา ซึ่งชาวเมืองอุดรธานีมักจะพากันมาสักการบูชา ในบริเวณศาลหลักเมืองอุดรธานี ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญอื่นๆ อันเป็นที่เลื่อมใสบูชาเป็นอย่างสูงได้แก่ หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทองและท้าวเวสสุวัณ ซึ่งมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นสิริมงคลในแต่ละด้านที่แตกต่างกันไป

ตามประวัติกล่าวว่า ศาลหลักเมืองอุดรธานีนั้นสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2502 โดยอัญเชิญดวงพระวิญญาณของ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ทรงก่อตั้งเมืองอุดรธานีขึ้นเมือ พ.ศ.2436 มาสถิต ณ เสาหลักเมืองนี้ด้วย องค์เสาหลักเมืองทำขึ้นด้วยไม้คูณยาว 5 เมตรเศษ และฝังลึกลงไป 3 เมตร มีการบรรจุแผ่นยันต์และแก้วแหวน เงิน ทองต่างๆเป็นจำนวนมากไว้ใต้ฐานเพื่อเป็นสิริมงคล ต่อมาในปี พ.ศ.2542 ได้มีการสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่แทนหลังเดิมที่ทรุดโทรมไป ตัวอาคารของศาลหลักเมืองจะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ ผสมผสานศิลปะแห่งภาคอีสาน ให้เป็นที่สักการะขอพรของชาวอุดรธานีสืบมา

นอกจากนี้บริเวณศาลหลักเมืองยังมีรูปปั้นท้าวเวสสุวัณ 1 ใน 4 ของท้าวจตุโลกบาลผู้ปกครองเหล่าอสูร และยักษ์ ตลอดจนภูตผีปีศาจทั้งหลายอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอุดร ที่ได้เชิญมาประดิษฐานไว้หลังการสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่ามาสักการะศาลหลักเมืองอุดรธานีนั้นสามารถบูชาและกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ได้ในหนเดียว

ศาลหลักเมืองอุดรธานี ตั้งอยู่บริเวณทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นสถานที่สำคัญในการดำรงและสืบสันติสุขของประชาราษฎร์จังหวัดอุดรธานี ศาลหลักเมืองเดิมได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในสมัย นายจินต์ รักการดี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2502 ที่ผ่านมาศาลหลักเมืองเดิมได้มีสภาพชำรุดทรุดโทรม จึงมีการปรับปรุงสร้างศาลาหลังใหม่ แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2539 โดยในขณะนั้น นายวิชัย ทัศนเศรษฐ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีได้อัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอุดรธานีมาประดิษฐานเคียงคู่กับอาสน์ศาลหลักเมืองใหม่พร้อมกันอีกโสตหนึ่งด้วย

นอกจากนี้โครงการสร้างศาลหลักเมือประจำจังหวัดอุดรธานียังเป็นโครงการที่รัฐบาลให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติโครงการหนึ่ง ในวาระสมัยอันเป็นมงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2552 และนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระบรมโอราสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดอุดรธานีในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2552

สถานที่ตั้ง บริเวณทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี

ความเชื่อและวิธีการบูชา

มีผู้นิยมมาสักการะศาลหลักเมืองเพื่อขอพรให้ชีวิตมั่นคง ราบรื่นทั้งการงานและการเงิน โดยมีเคล็ดความเชื่อว่าหากเข้าประตูใดให้ออกประตูนั้น จะทำให้ได้อานิสงส์มากยิ่งขึ้น ส่วนการสักการะพระพุทธโพธิ์ทองนั้นเชื่อว่าจะทำให้มีร่มโพธิ์ร่มไทร มีผู้ใหญ่สนับสนุน ค้ำจุน โดยผู้ที่มาสักการะมักเก็บใบโพธิ์ที่หล่นอยู่หลังคาไปบูชาเพื่อเป็นมงคลด้วย และการบูชารูปปั้นของท้าวเวสสุวัณนั้นถือว่าคือการขอพรให้ศัตรูหมู่มารหรือผู้มาคิดร้ายให้แพ้ภัยตัวเอง หรือกลับใจมาเป็นมิตร

เทศกาลงานประเพณี

มีพิธีบวงสรวงสักการะในวาระสำคัญของเมืองทุกครั้ง เช่นในเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลปีใหม่ หรืองานประจำปีทุ่งศรีเมือง (ประมาณวันที่ 1-15 ธันวาคม ของทุกปี)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น