ใบกระท่อม หางกั้ง
ต้นฉบับที่ http://www.siamsouth.com
ผมสารภาพว่าในชีวิตผมที่ผ่านมาสามสิบกว่าปีมานี้ ผมไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลย ผมรู้แค่ว่าใบกระท่อมที่คนแถวๆนี้กินกันอยู่มีแบบก้านเขียวก้านแดงเท่านั้น มีคนบอกว่า ใบกระท่อมก้านแดงกินแล้วจะมึนๆกว่าใบกระท่อมก้านเขียว แต่สำหรับผมแล้ว กินแบบไหนก็เหมือนกันครับ ประมาณว่าไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่กินเข้าไปซักเท่าไหร่
บางคนที่บังเอิญเข้ามาอ่านเจอบทความนี้อาจจะคิดว่า ทำไมวันนี้ผมถึงพูดเรื่องของใบกระท่อม ใบกระท่อมมันผิดกฎหมายนี่นา แล้วทำไมถึงเอามาเขียนในลักษณะแบบนี้ ผมเองก็รู้อยู่นะครับว่าใบกระท่อมมันผิดกฎหมาย แต่มันก็เพิ่งจะมาผิดกฎหมายเอาเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง
กระท่อม เป็นพืชล้มลุก ที่จัดเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ตามความใน พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7 ยาเสพติดให้โทษ ซึ่งสิ่งเสพติดในประเภท 5 ได้แก่ กัญชา และพืชกระท่อม
คนรุ่นปู่รุ่นพ่อของผมยังกินใบกระท่อมกันเป็นเรื่องปกติ กินวันละไม่กี่ใบ กินแล้วทำงาน ไม่ใช่เอามาต้มกินให้เมาแบบเด็กๆในปัจจุบันนี้ ถ้าใบกระท่อมผิดกฎหมาย เราลองย้อนกลับไปในสมัย "เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย" กันดูซักนิดนะครับ สมัยนั้นท่านผู้นำ ห้ามคนแก่กินหมาก ห้ามเล่นดนตรีไทย ด้วยสาเหตุที่ว่ามันล้าสมัย ทำให้คนในสมัยนั้นแทบจะลงแดงตายกันไปถ้วนหน้า แต่พอถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนกินหมากอยู่ทั่วไป ทั้งๆที่ช่วงนั้นมันก็ผิดกฏหมายเช่นกัน
พูดถึงยุคนั้นแล้วใครที่เคยดูหนังเรื่องโหมโรง คงจะยังพอเข้าใจว่า ความรันทดในสิ่งที่ถูกบังคับให้หลงลืมความเป็นไทยของเราไปนั้นมันเจ็บปวดแค่ไหน ศิลปวัฒนธรรมที่เราสร้างสมกันมายาวนาน ถูกบีบบังคับด้วยคำว่าล้าสมัย ยิ่งมาถึงยุคนี้สมัยนี้ ยุคที่ฝรั่งครองเมือง ขีดเส้นชี้ทางให้เราเดินตาม คนที่มีจิตสำนึกในความเป็นไทยอยู่บ้างก็คงจะเริ่มอึดอัด แต่ก็เป็นแค่บางคนเท่านั้น บางคนยังยกย่องฝรั่งเป็นพระเจ้า เป็นเทวดาอยู่ทุกวัน ฝรั่งทำอะไรถูกไปเสียหมด คนแบบนั้นเราก็คงต้องทำใจแล้วปล่อยให้เขาดำเนินชีวิตไปตามแบบที่เขาต้องการครับ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย
ผลการศึกษาหลายแห่งสรุปว่า
การใช้ใบกระท่อมในขนาดยาต่ำ ให้ผลกระตุ้นประสาท
ส่วนการใช้ขนาดยาสูง ให้ผลกดประสาท
เนื้อแท้ของใบกระท่อมแล้วนั้น มันมีสารเสพติดอยู่บ้างก็จริง แต่ผมคิดเอาเองนะครับว่า คงจะพอๆกันกับ กาแฟ ที่พวกเรากินประจำ น้ำอัดลมยี่ห้อดัง มีคาเฟอีนอยู่ในปริมาณที่มากพอสมควร น้ำชาเขียว ที่เราซื้อติดมือออกมาจากร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมงนั้น ลองอ่านดูที่ข้างขวดจะเห็นถึงปริมาณของ คาเฟอีน ที่มากพอที่จะบั่นทอนสุขภาพเราได้อย่างไม่ยากลำบากมากมายนัก
แต่สองสามอย่างที่ผมยกมาอ้างนั้น มันเป็นของถูกกฎหมาย และจ่ายภาษีถูกต้อง เราเลยแกล้งลืมๆไป ทำเป็นไม่สนใจ รวมทั้งสื่อต่างๆก็ช่วยกันล้างสมองผู้บริโภค ที่โง่จริงๆหรือแกล้งโง่แบบพวกเราว่า มันมีสารต่อต้านตัวต้นเหตุของมะเร็ง แล้ว..เราก็เป็นเหยื่อของมัน
ที่บ่นๆมาทั้งหมดก็เพื่อจะบอกว่า คนที่กินใบกระท่อมในตอนนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดี แต่ที่กลายเป็นคนผิดก็เพราะกฏหมายบอกว่าผิด ดังนั้นคนกินใบกระท่อมจึงต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ก็ยังพอหาได้ตามหัวไร่ปลายนา พอให้ไม่ลงแดงตายกันไปเสียก่อนที่มันจะพลิกกลับขึ้นมาอยู่บนดินเหมือนเช่นแต่ก่อน
ใบกระท่อมรูปหางกั้ง
สมัยผมเรียน ปวส ผมเคยไปบ้านน้องคนหนึ่ง ที่บ้านของน้องคนนี้มีอาชีพปลูกกระท่อมขายครับ ปลูกแบบยกร่องใส่ปุ๋ยดูแลกันแบบเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงหรือชมพู่ ในสมัยนี้ทีเดียว ช่วงบ่ายๆพ่อจะเข้าไปเก็บ แม่จะทำเป็นพับๆ แบบใบพลูแล้วเอาใส่ตะกร้า พายเรือออกมาส่งที่ตลาดท่าข้าม แต่ทุกวันนี้ผมกลับเข้าไปแถวนั้นก็ไม่เห็นแล้วครับ ต้นกระท่อมเหล่านั้นโดนโค่นทิ้งไปพร้อมๆกับความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจนหมด
เรื่องใบกระท่อม ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟัง ประมาณ ห้า หก ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมยังทำงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ไปกลับ สุราษฎร์ - ภูเก็ต เป็นว่าเล่น วันหนึ่งพี่หมูชวนผมไปเติมน้ำมัน Gen ที่ถลาง วันนั้นผมไม่ค่อยสบาย เลยบอกให้พี่หมูแวะที่ร้านค้าแถวๆข้างทาง ร้านที่พวกคนขับรถทางไกลจะทราบกันดีว่า ที่หน้าร้านจะมีใบกระท่อมใส่กระติกไว้คอยบริการลูกค้าอยู่เป็นประจำทุกวัน
วันนี้ผมเดินไปซื้อ เอ็มร้อยห้าสิบสองขวดแล้วหยิบใบกระท่อมมาสามสี่ใบ กะว่าจะเผื่อพี่หมูด้วย แต่พี่หมูปฏิเสธ ใบกระท่อม แกบอกว่าแกไม่เคยกิน คราวนี้เมื่อผมกินเอ็มร้อยห้าสิบ "หวน" ใบกระท่อม คำว่า หวน เป็น กริยาในภาษาใต้ หมายถึงการกินตามไปทันที เช่น กินยาแล้วหวนน้ำ หมายถึง กินยาแล้วดื่มน้ำตามเข้าไปทันที คำว่ากินเอ็มร้อยห้าสิบหวนใบกระท่อม ก็จะหมายถึง การกินใบกระท่อมแล้วดื่มเอ็มร้อยห้าสิบตามเข้าไปทันที
เมื่อผมกินเรียบร้อยมีใบกระท่อมเหลืออยู่สองใบ ไม่รู้จะเอาไว้ที่ไหน ผมก็เลยเอาใส่ไว้ในสมุดทะเบียนรถ กะว่าจะเก็บไว้กินตอนเย็น อีกรอบ แต่แล้วผมก็ลืมครับ ลืมกิน ลืมหยิบออกไปทิ้ง แต่วันรุ่งขึ้น ผมมีงานด่วนต้องไปภูเก็ตอีกรอบ คราวนี้ไปคนเดียว เมื่อมาถึงบริเวณแยกถลาง ผมเจอ ตำรวจเรียกตรวจ ตำรวจก็ดันขอดูคู่มือทะเบียนรถขึ้นมา ผมก็เปิดลิ้นชักด้านหน้าแล้วหยิบออกมาเปิดให้ตำรวจดู นอกจากทะเบียนรถแล้ว สิ่งที่อยู่ในสมุดคือ ใบกระท่อม ที่ยังเขียวๆอยู่สองใบ ตำรวจถามผมว่า "มีเยอะมั๊ย" "มีอยู่สองใบนี่ละครับ" พี่ตำรวจแกยิ้มแล้วบอกให้ผมไปได้ ...รอดมาหวุดหวิด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม สงสัยพี่แกจะกินกระท่อมเหมือนกัน เลยปล่อยผมด้วยความรู้สึกที่ว่า "พวกเดียวกัน"
มาถึงเรื่องใบกระท่อมหางกั้งกันบ้าง ถึงผมจะกินใบกระท่อม แต่ก็ไม่กินแบบมืออาชีพ นั่นก็คือมีก็กินไม่มีก็ไม่เป็นไร ดังนั้นผมจึงไม่ได้สังเกตอะไรมากมาย จนช่วงที่ผมไปงานศพพ่อของเพื่อนที่ทำงานที่จังหวัดตรัง พ่อของเพื่อนผมคนนี้คงจะนิยมในรสชาดของใบกระท่อมอยู่พอสมควร จึงปลูกต้นกระท่อมไว้ที่หลังบ้านซะเลย ต้นกระท่อมต้นนี้พวกเราได้อาศัยกินเพิ่มพลังงานอยู่บ่อยๆในสมัยที่จังหวัดตรังยังไม่โอนไปให้ภาคใต้ตอนล่างดูแล ดังนั้นเมื่อกลับมาที่บ้านนี้อีกครั้งผมจึงเดินเข้าไปเก็บมาฝากพี่สมพร
"นี่ๆๆน้องนภเหอ ใบท่อมหางกั้งพันนี้ เมาหรอย" เสียงพี่พรบอกกับผม ผมจึงหันไปดู พี่พรเลยอธิบายว่าใบกระท่อมแบบนี้ เรียกว่าใบกระท่อมหางกั้ง คนทั่วๆไปจะเชื่อว่ามันมีความเข้มข้นสูง กินเข้าไปแล้วให้พลังงานมากกว่าปกติ จนถึงขนาดทำให้มึน เมา ได้มากกว่าใบกระท่อมทั่วไป
วันนี้ผมได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว ความรู้ที่หาเรียนไม่ได้ในห้องเรียน ความรู้ที่ต้องอาศัยความสนใจในสิ่งรอบๆข้างถึงจะได้เห็น ถึงจะได้รู้ ขอบคุณคนเก่าเล่าเรื่องในวันนี้ เป็นอย่างมากที่เล่าเรื่องราวแบบนี้ให้ผมได้มาเล่าต่อ ให้คนอื่นๆได้รู้ (ช่วงนี้เอาพี่สมพรมาหากินเยอะเป็นพิเศษ)
ไว้วันหน้ามีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจผมจะมาเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ
นภดล 19/7/2553
1 ความคิดเห็น:
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ พี่หลวง
วันนี้ปลดล็อคกระท่อมจากยาเสพติดแล้ว 22-1-65 ปลดล็อคตั้งแต่สค.64 คับ
แสดงความคิดเห็น