วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หลวงพ่อปากแดง จังหวัดนครนายก

หลวงพ่อปากแดง จังหวัดนครนายก


การเดินทางมาจังหวัดนครนายกของผมในครั้งนี้นั้น เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยครับ ทั้งๆที่จังหวัดนี้ก็ไม่ไกลจากกรุงเทพเลย เดินทางก็สะดวกใช้เวลาไม่นานก็ถึงแล้ว แต่ก็เฉียดไปเฉียดมาอยู่บ่อยๆ ไม่ได้มาซักที เดี๋ยวจะมาๆๆ แต่ไม่ได้มา จนได้มากราบหลวงพ่อปากแดงในวันนี้เอง

ชื่อหลวงพ่อปากแดง เป็นที่รู้จักกันมายาวนานโดยเฉพาะคอหวยทั้งหลาย ตามแผงหนังสือในชนบท แผงขายล็อตเตอรี่ แม้กระทั่งในอินเตอร์เนต ต่างมีชื่อหลวงพ่อปากแดงเป็นชื่อต้นๆในการให้โชคให้ลาภ ให้รางวัลแก่คนทั่วไปที่มาขอหรือโชคเข้าข้าง ในแต่ละงวดจะมีคนแชร์เลขเด็ดหลวงพ่อปากแดงออกมาอยู่บ่อยๆ และมีคนได้โชคลาภอยู่เสมอ ทำให้หลวงพ่อปากแดงเป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วประเทศ

วันนี้ผมจะนำภาพบรรยากาศของวัดหลวงพ่อปากแดง มาให้ชมกันครับ เป็นบรรยากาศของวันหยุดที่มีผู้คนมากมาย เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว ต่างก็มากราบไหว้ ปิดทอง แก้บน ขอพรให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง และที่สำคัญมักจะขอโชคลาภติดตัวกลับบ้านกันแทบทุกคน บริเวณวัดก็จะมีแผงขายล็อตเตอรี่ มากมายจนนับไม่ไหวมาคอยให้บริการกันอย่างใกล้ชิด เห็นเลขไหนซื้อเลขนั้น เข้าตาใบไหนหยิบใบนั้น หรือมีเลขเด็ดมาจากที่อื่นจะมาซื้อที่นี่ก็ไม่ผิดหวัง ร้านนี้ไม่มีร้านต่อไปก็ต้องมี เรียกได้ว่าตลาดโชคลาภที่นี่ ใหญ่พอๆกับแถวๆแยกคอวัว ถนนราชดำเนินในสมัยก่อนเลยทีเดียว

ผมเข้ามากราบหลวงพ่อปากแดง ถ่ายภาพท่านมาเป็นที่ระลึก แต่ก็ไม่ได้ขออะไร ไม่ได้ซื้อล็อตเตอรี่ ไม่ได้สะเดาะเคราะห์ แต่ก็ซื้อส้มโอ รวมทั้งน้ำองุ่น จากร้านค้าในตลาดบริเวณทางเดินเข้า ออก บริเวณวัด ซื้อผ้าเช็ดตัวจากร้านค้าที่ขายอยู่แถวๆลานจอดรถ แล้วก็กลับออกมา เพื่อนๆหลายคนที่รู้ว่าผมไปวัดหลวงพ่อปากแดง ทุกคนถามเหมือนกันเลยว่า "ได้เลขอะไรมาบ้าง" ผมก็บอกไปตามที่เห็น คือ 0-9 ที่อยู่ตรงแผงเซียมซี มีครบทุกเลข ที่เหลือไปผสมกันเอาเองก็แล้วกัน รับรองถูกแน่นอน

ผมออกจากวัดหลวงพ่อปากแดง มาในตอนเที่ยงเกือบๆจะบ่ายโมง สภาพอากาศจัดได้ว่า ร้อนถึงร้อนที่สุด ดังนั้นผมจึงต้องวางแผนไปที่ไหนอีกซักแห่งเพื่อบรรเทาความร้อนก่อนที่จะเดินทางต่อไป วันนี้ลากันด้วยประวัติหลวงพ่อปากแดง เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมสำหรับทุกท่านนะครับ


ประวัติวัดพราหมณี (วัดหลวงพ่อปากแดง) ที่มาจาก Facebook ของใครซักคน ผม Copy มา ขออภัยที่ลงที่มาไม่ชัดเจนนะครับ

วัดพราหมณีสร้างขึ้นเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.5) เสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี เมื่อมาถึงบริเวณวัด ช้างทรงเชือกหนึ่งได้ล้มลง จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2446 ปัจจุบันนี้มีอายุ 100 กว่าปีแล้ว

วัดพราหมณีเคยได้ถูกทิ้งร้างไปในช่วงหนึ่ง กระทั่งในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกบริเวณที่ตั้งของวัดพราหมณีและเขาทุเรียนเป็นจุดพักทัพของกองพลทหารที่ 37 ซึ่งมีจุดหมายจะไปรวมพลกันที่บริเวณเขาชะโงก (ปัจจุบัน คือ สถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก) จนสงครามสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2488 จึงมีทหารญี่ปุ่นล้มตายอยู่ในเขต จ.นครนายก หลายแห่งด้วยกัน ปรากฏว่ามีการค้นพบกระดูกของทหารญี่ปุ่นใกล้วัดพราหมณี ดังนั้น สมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 ได้ร่วมกันบริจาคเงินในนามสมาคมสหายสงครามสร้างอนุสรณ์สถานไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงทหารญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2532

ปี 2526 พระครูโสภณพรหมคุณ หรือ "หลวงพ่อตึ๋ง" เจ้าอาวาสวัดพราหมณีได้บูรณะวัดขึ้นใหม่ โดยเล่าว่า ตำนานเชื่อกันหลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับหลวงพ่อพระสุก และหลวงพ่อพระใส ที่ประดิษฐานอยู่ที่ จ.หนองคาย ในปัจจุบัน ที่ได้อัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์ พอมาถึงประเทศไทย ชาวบ้านได้แยกย้ายไปตามวัดต่างๆ ส่วนหลวงพ่อปากแดงนั้น ถูกชาวบ้านอัญเชิญและนำมาหยุดยังพื้นที่ว่างบริเวณที่เป็นวัดพราหมณี ปัจจุบันนี้ จากนั้นก็ลงมือสร้างวัดแล้วก็อัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นเป็นพระประธานในพระ อุโบสถ ซึ่งต่อมา "หลวงพ่อปากแดง" ก็กลายมาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาว จ.นครนายก สิ่งที่เด่นสะดุดตา คือ ที่ปากของหลวงพ่อมีสีแดงสด เหมือนมีผู้นำลิปสติกไปทาไว้ ผู้เฒ่าผู้แก่ย่านนั้นยืนยัน ว่าเห็นปากท่านแดงแบบนี้ มาตั้งแต่เกิด แม้แต่ปู่ย่าตายายของผู้เฒ่าเหล่านี้ก็บอกว่าเห็นมาตั้งแต่เกิดเหมือนกัน จนทุกวันนี้ โดยความเชื่อของประชาชนที่เดินทางไปเที่ยวน้ำตกสาริกา จะต้องแวะกราบสักการบูชา พร้อมกับบนบานด้วยกล้วยน้ำว้า 9 หวี หมากพลู 9 ชุด พวงมาลัย 9 พวง และน้ำแดง 1 ขวด กันอย่างล้นหลาม พร้อมทั้งตั้งจิตอธิษฐานให้สมความปรารถนาแก่ตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น