วันนี้เข้าไปตัดหญ้าในสวนหลังบ้าน พอดีเหลือบไปเห็นเจ้าตัวนี้เข้า ผมจึงต้องหยุดนั่งเล่นกับมันอยู่พักใหญ่ๆ เจ้าตัวนี้บ้านผมเรียก "มวนชิด" หรือที่ภาษาทางการ ทางสุพรรณ เรียก "กระสุนพระอินทร์"หรือ"กิ้งกือกระสุน" เวลามันตกใจมันจะม้วนตัวจนเป็นวงกลม และนี่คงเป็นที่มาของชื่อ ม้วนชิด หรือมวนชิด
เจ้าตัวนี้ในสมัยผมยังเด็กมันมีมากมายเหลือเกิน ในสวนยางหลังบ้าน เรียกว่าเดินไปทางไหนต้องเจอพวกมัน ในสมัยเด็กๆผมจะเอามันมาเล่นหมากเก็บ แทนก้อนหิน หรือไม่ก็เอามันมากลิ้งเล่นตามทางที่ทำเอาไว้ บางครั้งก็เอามาขว้างใส่กัน
จนกระทั่งเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จับมือกับพ่อค้ายาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี ยัดเยียดให้เกษตรกรต้องใช้สารเคมี โดยมีข้าราชการเป็นตัวแทน ทำการประชาสัมพันธ์ให้ ได้สร้างความบรรลัยให้กับระบบนิเวศน์ จนแทบไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานได้ดูจนถึงทุกวันนี้ เริ่มจากมองไปทางไหนก็เห็นแต่หญ้าแห้งตาย ปลาช่อนในห้วยเริ่มเปิ่อยเป็นแผล เพราะสารเคมีไหลลงไปในน้ำ แต่สมัยนี้ผมไม่เห็นปลาเปื่อยอีกแล้ว คงเป็นเพราะรุ่นลูก รุ่นหลานมันคงปรับตัวได้แล้ว
สัตว์เล็กสัตว์น้อยบนดิน เช่นพวกตั๊กแตนที่ผมเคยจับมาเกี่ยวเบ็ดตกปลาก็ไม่มีให้เห็น ผมเคยเห็นนกที่เมายาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง บินหัวทิ่มมาแล้ว หลังจากที่เขาฉีดยาเสร็จ ดังนั้นผมจึงเกลียดการใช้สารเคมีมากๆ ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหนก็ตาม จนในสิบปีที่ผ่านมา ที่บ้านผมเลิกใช้สารเคมีโดยเด็ดขาด ทำให้ดินที่เคยแข็งจากการใส่ปุ๋ยเคมี กลับมาร่วนซุย มีไส้เดือนมาอยู่ เริ่มมีแมลงปอ บินให้เห็น ตั๊กแตนมีมากขึ้น จนกระทั่งมีนกมาอยู่มากมายรอบๆบ้าน อย่างที่เคยถ่ายภาพให้ชมกัน
และถึงบ้านผมจะเลิกใช้สารเคมี แต่บริเวณใกล้เคียงก็ใช้กันเป็นปกติ ผมเองก็คงจะห้ามใครไม่ได้ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ พวกสารกระตุ้นต่างๆยิ่งขายดี ใครๆก็อยากเพิ่มผลผลิต อยากได้เยอะๆ อยากรวย แต่ผมคิดว่ามันก็เพิ่มมาแค่พอหาเงินไปจ่ายค่ายาเท่านั้นเอง ทีวีหนังสือต่างๆ โฆษณาปั่นหัวกันทุกวัน ใช้แล้วลูกดก ใช้แล้วหัวใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้ช่วยเกษตรกรเลย ผลดก ต้องเพิ่มแรงงาน ฉีดหัวเชื้อ ต้องจ้างคนฉีด เพิ่มต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มรายจ่ายขึ้นมาอีก หักกลบลบหนี้แล้วอาจจะกำไรเพิ่มขึ้นนิดหน่อย หรืออาจจะเท่าทุน
แต่ที่ขาดทุนแน่ๆคือสุขภาพ ขาดทุนสุนทรียภาพ ในการใช้ชีวิต ... มวนชิดตัวเดียว บ่นมาได้ขนาดนี้ หรือเราจะแก่ไปแล้วจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น