สวนยางยามเช้า
วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
บันทึกของเมื่อวาน 27 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 27 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นเช้า ตั้งใจจะรีบเข้าสวน รู้สึกเสพติดการใช้ชีวิตเงียบๆในนั้น เปิดประตูบ้านออกมา ... ฝนตก
ดีใจมาก สภาพอากาศช่วงนี้ร้อนจัดมาหลายวัน กลัวว่าต้นไม้ที่ปลูกใหม่จะตายเสียก่อน คิดไว้ว่าถ้าอีกซักอาทิตย์ ฝนยังไม่ตกลงมา จะเอาถังไปตักน้ำรดพลางๆก่อน
ช่วงเช้าฝนตกไม่หนักมาก มาหยุดช่วงเก้าโมงกว่าๆ รีบปลูกมะนาวสองต้น ตะขบป่า เพิ่งเอามาจากบ้านพี่หมู ตอนแรกคิดว่าจะเก็บไว้ปลูกช่วงฝนเดือนหก แต่ไหนๆเช้านี้ก็ทำอะไรไม่ได้เลยปลูกเสียก่อน
ซักพักฝนก็ตกลงมาอีก คราวนี้หนักเลย เข้ามานอน อ่านหนังสือ แล้วเปิดคอม ลงรูปนกหน้าบ้าน ที่เพิ่งเริ่มถ่ายเก็บไว้ ปีนี้ยังเห็นนกไม่มากนัก หญ้ารก กิ่งไม้บัง ต้องรอตัดหญ้าให้เสร็จก่อน จะโล่งพอให้เห็นนกได้ง่ายๆ
แอบๆมองดูด้านนอกเป็นระยะ จนบ่ายสองฝนหยุด เข้าไปในสวน ตัดหญ้าได้ไม่มากนัก แต่ก็ยังได้ขยับพื้นที่เข้าไปอีกหน่อย ถ้าหยุดเสียเลย กลัวจะขี้เกียจเสียก่อนที่จะเสร็จทั้งสวน
สี่โมงเย็น กลับลงมาอาบน้ำ ขับรถเข้าเมือง รถติดมากมาย แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะรถที่จอดในที่ห้ามจอด เปิดไฟกระพริบ แต่ช่างเถอะทุกคนมีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น
เข้าเมืองเพื่อไปลงชื่อ จองคิวตรวจให้พ่อที่คลีนิคหมอในบ้านดอน เพื่อนจุ๊บ แนะนำมาให้มาที่นี่ ช่วงเย็นที่นี่คนเยอะมาก ไม่อยากให้พ่อมานั่งรอ ลงชื่อเสร็จแล้วรีบกลับมาท่าข้าม รับพ่อไปตรวจร่างกาย
กลับมาถึงคลีนิคทันเวลาพอดี วัดความดัน นั่งรอหมอ เหลืออีกสามคิว นั่งรอไม่นานก็ได้ตรวจ ความดันสูงนิดหน่อย มีอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื่อไม่ค่อยมีแรง หมอให้ยามากิน เป็นยาเกี่ยวกับเส้นเลือดอุดตัน เสร็จจากคลีนิค เข้าไปศาลเจ้า ซื้อผัดไทยกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกลับมากินที่บ้าน
ถึงบ้าน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ นอนตั้งแต่สี่ทุ่มกว่าๆ ร่างกายปรับตัวให้นอนเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ตื่นเช้า ตั้งใจจะรีบเข้าสวน รู้สึกเสพติดการใช้ชีวิตเงียบๆในนั้น เปิดประตูบ้านออกมา ... ฝนตก
ดีใจมาก สภาพอากาศช่วงนี้ร้อนจัดมาหลายวัน กลัวว่าต้นไม้ที่ปลูกใหม่จะตายเสียก่อน คิดไว้ว่าถ้าอีกซักอาทิตย์ ฝนยังไม่ตกลงมา จะเอาถังไปตักน้ำรดพลางๆก่อน
ช่วงเช้าฝนตกไม่หนักมาก มาหยุดช่วงเก้าโมงกว่าๆ รีบปลูกมะนาวสองต้น ตะขบป่า เพิ่งเอามาจากบ้านพี่หมู ตอนแรกคิดว่าจะเก็บไว้ปลูกช่วงฝนเดือนหก แต่ไหนๆเช้านี้ก็ทำอะไรไม่ได้เลยปลูกเสียก่อน
ซักพักฝนก็ตกลงมาอีก คราวนี้หนักเลย เข้ามานอน อ่านหนังสือ แล้วเปิดคอม ลงรูปนกหน้าบ้าน ที่เพิ่งเริ่มถ่ายเก็บไว้ ปีนี้ยังเห็นนกไม่มากนัก หญ้ารก กิ่งไม้บัง ต้องรอตัดหญ้าให้เสร็จก่อน จะโล่งพอให้เห็นนกได้ง่ายๆ
แอบๆมองดูด้านนอกเป็นระยะ จนบ่ายสองฝนหยุด เข้าไปในสวน ตัดหญ้าได้ไม่มากนัก แต่ก็ยังได้ขยับพื้นที่เข้าไปอีกหน่อย ถ้าหยุดเสียเลย กลัวจะขี้เกียจเสียก่อนที่จะเสร็จทั้งสวน
สี่โมงเย็น กลับลงมาอาบน้ำ ขับรถเข้าเมือง รถติดมากมาย แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะรถที่จอดในที่ห้ามจอด เปิดไฟกระพริบ แต่ช่างเถอะทุกคนมีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น
เข้าเมืองเพื่อไปลงชื่อ จองคิวตรวจให้พ่อที่คลีนิคหมอในบ้านดอน เพื่อนจุ๊บ แนะนำมาให้มาที่นี่ ช่วงเย็นที่นี่คนเยอะมาก ไม่อยากให้พ่อมานั่งรอ ลงชื่อเสร็จแล้วรีบกลับมาท่าข้าม รับพ่อไปตรวจร่างกาย
กลับมาถึงคลีนิคทันเวลาพอดี วัดความดัน นั่งรอหมอ เหลืออีกสามคิว นั่งรอไม่นานก็ได้ตรวจ ความดันสูงนิดหน่อย มีอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื่อไม่ค่อยมีแรง หมอให้ยามากิน เป็นยาเกี่ยวกับเส้นเลือดอุดตัน เสร็จจากคลีนิค เข้าไปศาลเจ้า ซื้อผัดไทยกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกลับมากินที่บ้าน
ถึงบ้าน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ นอนตั้งแต่สี่ทุ่มกว่าๆ ร่างกายปรับตัวให้นอนเร็วขึ้นเรื่อยๆ
แมลงปอข้างบ้าน
แมลงปอข้างบ้าน
แมง น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่มีร่างกายแบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนหัวกับอกรวมเป็นส่วนเดียวกันส่วนหนึ่งและส่วนท้องอีกส่วนหนึ่งมีขา ๘ หรือ ๑๐ ขา ไม่มีหนวด ไม่มีปีก เช่น แมงมุม แมงดาทะเล แมงป่อง
แมลง [มะแลง] น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เมื่อร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่ แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง มี ๖ ขา เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังพวกเดียวที่มีปีกซึ่งอาจมี ๑ หรือ ๒ คู่ เช่น แมลงวัน แมลงภู่ แมลงปอ
แมง น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่มีร่างกายแบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนหัวกับอกรวมเป็นส่วนเดียวกันส่วนหนึ่งและส่วนท้องอีกส่วนหนึ่งมีขา ๘ หรือ ๑๐ ขา ไม่มีหนวด ไม่มีปีก เช่น แมงมุม แมงดาทะเล แมงป่อง
แมลง [มะแลง] น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เมื่อร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่ แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง มี ๖ ขา เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังพวกเดียวที่มีปีกซึ่งอาจมี ๑ หรือ ๒ คู่ เช่น แมลงวัน แมลงภู่ แมลงปอ
วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
เจ้าผอม
ผมเรียกมันว่าเจ้าผอม มันมาจากไหนก็ไม่รู้ ผมเจอมันข้างบ้านเมื่อหน้าฝนปีที่แล้ว สภาพมันผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คล้ายๆกับแมวที่ไม่ได้กินอาหารมาหลายวัน ผมเอาผ้าไปปูให้มันนอน แบ่งอาหารของแมวที่บ้านให้มันกิน
สภาพมันตอนนั้นเหมือนจะไม่รอด แต่มันก็รอดมาได้ เจ้าผอมเป็นแมวตัวผู้ที่เคยมีเจ้าของ มันทำหมันมาแล้ว ตามันเสียข้างนึง ผมเคยคิดว่ามันคงจะไม่รอด แต่มันก็รอดมาได้ เหมือนๆกับการโกงความตายในหนัง
ทุกวันนี้มันยึดพื้นที่หน้าบ้านเป็นที่อยู่ประจำไปแล้ว แต่ไม่กล้าเข้าในบ้านเพราะจะโดนเจ้าถิ่นไล่กัด เวลาผมออกมานั่งหน้าบ้าน มันจะมาอ้อน มานอนบนตัก วันนี้เห็นฟันมันเริ่มหักไปหลายซี่แล้ว มันคงแก่เต็มที
เวลาผมเห็นเจ้าผอม จะรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือมัน จากแมวที่กำลังจะตาย จนกลับมาเป็นแมวที่ดูเป็นแมวอีกครั้ง และดูท่าทางมันจะรู้ด้วยว่าใครที่ช่วยมันไว้ มันจะเดินมาหา เอาหัวมาถูที่ขา มานอนใกล้ๆทุกครั้งที่เห็น
ตั้งแต่เจ้าผอมหายดี มันก็ไม่เคยทิ้งผมไปไหน อยู่ด้วยกันแบบนี้ทุกวัน แมวแบบเจ้าผอม ต่างกันเหลือเกินกับสัตว์บางตัวที่เรียกตัวเองว่าคน ... บางคน
สมัยเดินลงมาจากเขานางหงส์
เมื่อวานเจอโชคชัยมาขายน้ำผักสกัด คิดถึงความหลังเมื่อสมัยหนุ่มๆ .. เรามาเล่าความหลังกันดีกว่า
ปี 2546 เราได้ทำงานคู่กันในแผนกวิศวกรรมของ ดีแทค โชคยังไม่ย้ายไปแผนกเซลล์ เราจับคู่วิ่งเป็นบั๊ดดี้กัน ดูพื้นที่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ แต่หลักๆจะอยู่กระบี่ พังงา มากกว่า เพราะภูเก็ต มีแต่แสงสี รุ่นพี่ๆเขาจอง
จำได้ว่าเป็นรถ อีซูซุ ทะเบียน 5422 สุราษฎร์ธานี
วันหนึ่ง เราสองคนนั่งกินเหล้ากันที่ใต้โรงแรมบุญสยาม มีพี่อู๊ด CAT สุราษฎร์ธานีนั่งกินด้วยอีกคน แกมาธุระที่กระบี่พอดี เลยนั่งคุยกันนิดหน่อย ก็กินไม่มาก ราวๆสองแบน
นั่งกินพลางวางแผนงานไปพลาง อาทิตย์นี้มีงาน ออนเซอร์วิส สถานีฐานใหม่ที่คุระบุรี สมัยนั้นการมีสัญญาณโทรศัพท์ในแต่ละพื้นที่มีความสำคัญมากๆ ทั้งผู้ใช้บริการ และรายได้ของบริษัท
เอางี้ ... ผมเริ่มวางแผน เดี๋ยวเราไปนอนคุระบุรีเลยดีกว่า โหลดคอนฟิก ทิ้งไว้ก่อน เช้ามาอัพเดท ซอฟต์แวร์ แจ้ง BSS เอาไซท์ขึ้นเลย
เอางั้นเหรอพี่ ... อืมเอาไงก็เอากัน
เราออกจากกระบี่ราวๆเที่ยงคืน โชคชัยเป็นคนขับรถ ผมเอนเบาะหลับไปตั้งแต่อ่าวลึก มารู้สึกตัวอีกทีคือโชคปลุก แล้วถามว่า "พี่รถเป็นไรไม่รู้"
"กูจะรู้เหรอ กูจบอิเล็ก" ผมตอบไปแบบนั้นเพราะคิดว่าโชคพูดเล่น แต่พอมองไปรอบๆรถ "เฮ๊ย นี่มันที่ไหนวะ"
มีแต่ป่า มืดมิด รถจอดสนิทอยู่บนเขา เส้นทางแคบๆ เรามากันทางเขานางหงส์ เราอยู่บนเขานางหงส์ เรารถเสียอยู่บนเขานางหงส์ตอนตีหนึ่ง โอ้ .. พระเจ้า
"ผมว่าทางนี้มันใกล้กว่า ไปโคกกลอย ท้ายเหมืองนะพี่"
"ใช่จ๊ะ ... แต่ไม่ใช่ตอนตีหนึ่งแบบนี้ 555"
เรานั่งรออยู่ข้างทาง เผื่อจะมีรถผ่านมาจะได้ขอความช่วยเหลือ แต่พอเห็นเรามีแต่คนรีบเหยียบหนี ไม่มีใครจอดเลย เป็นผมก็ไม่จอด คนดีๆที่ไหนจะมานั่งแถวนี้ตอนตีหนึ่ง
ที่ตรงนี้ถ้ามาจากทับปุดจะอยู่ก่อนถึงศาลแม่นางหงส์นิดเดียว เวลาขับรถผ่านจะคิดถึงเรื่องนี้ทุกที
สุดท้ายเราช่วยกัน เข็นกลับรถ ให้มันไหลกลับลงมา ตามทาง คิดว่าหยุดตรงไหนก็นอนกันตรงนั้นแหละ รถไหลมาเรื่อยๆ ได้ระยะพอสมควร
จนมาติดอยู่ในโค้งก่อนขึ้นเนินในโค้งริมเขา มันไหลขึ้นไปไม่ได้ แถมยังจอดอยู่ในโค้งอันตราย ซ้ายเป็นป่า ขวาเป็นเหว ถ้าเรานอนกันในรถ โดนรถแหกโค้งมาชนตาย จะทำไง สมัยนั้นยังไม่มีเมียกันทั้งคู่
ดูเวลา ตีสองครึ่งเข้าไปแล้ว เราสองคนเลยต้องตัดสินใจอีกครั้ง เก็บของที่จำเป็น เดินไปทับปุดกันดีกว่า ผมสะพายโน๊ตบุ๊คกับโทรศัพท์ อย่างอื่นทิ้งไว้ในรถทั้งหมด โน๊ตบุ๊คยี่ห้อ โตชิบ้า ตัวเล็กๆตอนแรกๆมันก็เบาดี อยู่ไปๆ มันเริ่มหนัก ต้องผลัดกันสะพาย ทั้งๆที่ในเวลาปกติมันตัวเล็กนิดเดียวเอง
บนเขานางหงส์ตอนตีสองกว่าๆ โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ มีระบบ 1800 ที่เงียบกริบเป็นสากกระเบือ กับ 800 ที่มาโทรได้ตอนก่อนถึงสามแยกทับปุด โทรแจ้งพี่แป๊ะ ที่เป็นแอดมินตอนนั้น ให้รับทราบ
มาลองวัดระยะในตอนเช้า ที่กลับไปเอารถ พวกเราเดินลงมาสิบกิโลพอดี ถ้าเป็นพื้นราบในเวลาปกติก็ไม่เท่าไหร่ บนเขานางหงส์ตอนตีสองกว่า มันเลยดูเหนื่อยกว่าปกติ
ตีสี่ครึ่ง เรามาถึงสามแยกทับปุด โทรติดต่อพี่โรจน์ได้พอดี บอกให้มาช่วยลากรถตอนเช้า แล้วเราสองคนก็นอนหลับบนม้าหินอ่อนตรงสามแยก เมื่อก่อนจะมีป้อมตำรวจอยู่ แต่ตอนนี้ป้อมรื้อไปแล้ว ตอนนอนมีเราสองคน แต่ตอนตื่นมา มีคนมารอรถเยอะแยะเลย ... ไม่รู้จะอายใครดี
ปี 2546 เราได้ทำงานคู่กันในแผนกวิศวกรรมของ ดีแทค โชคยังไม่ย้ายไปแผนกเซลล์ เราจับคู่วิ่งเป็นบั๊ดดี้กัน ดูพื้นที่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ แต่หลักๆจะอยู่กระบี่ พังงา มากกว่า เพราะภูเก็ต มีแต่แสงสี รุ่นพี่ๆเขาจอง
จำได้ว่าเป็นรถ อีซูซุ ทะเบียน 5422 สุราษฎร์ธานี
วันหนึ่ง เราสองคนนั่งกินเหล้ากันที่ใต้โรงแรมบุญสยาม มีพี่อู๊ด CAT สุราษฎร์ธานีนั่งกินด้วยอีกคน แกมาธุระที่กระบี่พอดี เลยนั่งคุยกันนิดหน่อย ก็กินไม่มาก ราวๆสองแบน
นั่งกินพลางวางแผนงานไปพลาง อาทิตย์นี้มีงาน ออนเซอร์วิส สถานีฐานใหม่ที่คุระบุรี สมัยนั้นการมีสัญญาณโทรศัพท์ในแต่ละพื้นที่มีความสำคัญมากๆ ทั้งผู้ใช้บริการ และรายได้ของบริษัท
เอางี้ ... ผมเริ่มวางแผน เดี๋ยวเราไปนอนคุระบุรีเลยดีกว่า โหลดคอนฟิก ทิ้งไว้ก่อน เช้ามาอัพเดท ซอฟต์แวร์ แจ้ง BSS เอาไซท์ขึ้นเลย
เอางั้นเหรอพี่ ... อืมเอาไงก็เอากัน
เราออกจากกระบี่ราวๆเที่ยงคืน โชคชัยเป็นคนขับรถ ผมเอนเบาะหลับไปตั้งแต่อ่าวลึก มารู้สึกตัวอีกทีคือโชคปลุก แล้วถามว่า "พี่รถเป็นไรไม่รู้"
"กูจะรู้เหรอ กูจบอิเล็ก" ผมตอบไปแบบนั้นเพราะคิดว่าโชคพูดเล่น แต่พอมองไปรอบๆรถ "เฮ๊ย นี่มันที่ไหนวะ"
มีแต่ป่า มืดมิด รถจอดสนิทอยู่บนเขา เส้นทางแคบๆ เรามากันทางเขานางหงส์ เราอยู่บนเขานางหงส์ เรารถเสียอยู่บนเขานางหงส์ตอนตีหนึ่ง โอ้ .. พระเจ้า
"ผมว่าทางนี้มันใกล้กว่า ไปโคกกลอย ท้ายเหมืองนะพี่"
"ใช่จ๊ะ ... แต่ไม่ใช่ตอนตีหนึ่งแบบนี้ 555"
เรานั่งรออยู่ข้างทาง เผื่อจะมีรถผ่านมาจะได้ขอความช่วยเหลือ แต่พอเห็นเรามีแต่คนรีบเหยียบหนี ไม่มีใครจอดเลย เป็นผมก็ไม่จอด คนดีๆที่ไหนจะมานั่งแถวนี้ตอนตีหนึ่ง
ที่ตรงนี้ถ้ามาจากทับปุดจะอยู่ก่อนถึงศาลแม่นางหงส์นิดเดียว เวลาขับรถผ่านจะคิดถึงเรื่องนี้ทุกที
สุดท้ายเราช่วยกัน เข็นกลับรถ ให้มันไหลกลับลงมา ตามทาง คิดว่าหยุดตรงไหนก็นอนกันตรงนั้นแหละ รถไหลมาเรื่อยๆ ได้ระยะพอสมควร
จนมาติดอยู่ในโค้งก่อนขึ้นเนินในโค้งริมเขา มันไหลขึ้นไปไม่ได้ แถมยังจอดอยู่ในโค้งอันตราย ซ้ายเป็นป่า ขวาเป็นเหว ถ้าเรานอนกันในรถ โดนรถแหกโค้งมาชนตาย จะทำไง สมัยนั้นยังไม่มีเมียกันทั้งคู่
ดูเวลา ตีสองครึ่งเข้าไปแล้ว เราสองคนเลยต้องตัดสินใจอีกครั้ง เก็บของที่จำเป็น เดินไปทับปุดกันดีกว่า ผมสะพายโน๊ตบุ๊คกับโทรศัพท์ อย่างอื่นทิ้งไว้ในรถทั้งหมด โน๊ตบุ๊คยี่ห้อ โตชิบ้า ตัวเล็กๆตอนแรกๆมันก็เบาดี อยู่ไปๆ มันเริ่มหนัก ต้องผลัดกันสะพาย ทั้งๆที่ในเวลาปกติมันตัวเล็กนิดเดียวเอง
บนเขานางหงส์ตอนตีสองกว่าๆ โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ มีระบบ 1800 ที่เงียบกริบเป็นสากกระเบือ กับ 800 ที่มาโทรได้ตอนก่อนถึงสามแยกทับปุด โทรแจ้งพี่แป๊ะ ที่เป็นแอดมินตอนนั้น ให้รับทราบ
มาลองวัดระยะในตอนเช้า ที่กลับไปเอารถ พวกเราเดินลงมาสิบกิโลพอดี ถ้าเป็นพื้นราบในเวลาปกติก็ไม่เท่าไหร่ บนเขานางหงส์ตอนตีสองกว่า มันเลยดูเหนื่อยกว่าปกติ
ตีสี่ครึ่ง เรามาถึงสามแยกทับปุด โทรติดต่อพี่โรจน์ได้พอดี บอกให้มาช่วยลากรถตอนเช้า แล้วเราสองคนก็นอนหลับบนม้าหินอ่อนตรงสามแยก เมื่อก่อนจะมีป้อมตำรวจอยู่ แต่ตอนนี้ป้อมรื้อไปแล้ว ตอนนอนมีเราสองคน แต่ตอนตื่นมา มีคนมารอรถเยอะแยะเลย ... ไม่รู้จะอายใครดี
เล่าอดีตกันนิดหน่อย
สมัยเรียนเทคนิค วิชาระบบสื่อสาร เราจะทำงานกลุ่ม ทำรายงานเป็นเล่มก่อนจะออกไปบรรยายหน้าชั้น
พวกเราส่งรายงาน แล้วออกไปเตรียมตัวหน้าชั้น ได้ยินเสียงอาจารย์ดังมาจากหลังห้อง
"นี่พวกเธอตั้งใจหรือเปล่า"
เพื่อนผม Chatchawan Saeng-Arwut รีบเดินไปดูที่หลังห้อง พูดอะไรกันนิดหน่อย เห็นเอาปากกาเขียนเพิ่มที่ในรายงาน แล้วกลับมาบรรยายหน้าชั้นต่อจนเสร็จ
เลิกเรียนผมถามชัชวาลย์ว่า มีอะไรเหรอทำไมอาจารย์ถึงออกอาการขนาดนั้น
"อ๋อ กูเขียนชื่อแกตกไปตัวนึง ลืมใส่ ท.ทหาร"
เรื่องมันนานมาแล้ว เล่าสู่กันฟังกันลืม ผ่านมายี่สิบกว่าปี เกือบสามสิบปี อาจารย์เปลี่ยนชื่อไปแล้ว
อาจารย์ชื่อ มารยาท ... ไอ้ชัชลืมใส่ ท.ทหาร 5555
พวกเราส่งรายงาน แล้วออกไปเตรียมตัวหน้าชั้น ได้ยินเสียงอาจารย์ดังมาจากหลังห้อง
"นี่พวกเธอตั้งใจหรือเปล่า"
เพื่อนผม Chatchawan Saeng-Arwut รีบเดินไปดูที่หลังห้อง พูดอะไรกันนิดหน่อย เห็นเอาปากกาเขียนเพิ่มที่ในรายงาน แล้วกลับมาบรรยายหน้าชั้นต่อจนเสร็จ
เลิกเรียนผมถามชัชวาลย์ว่า มีอะไรเหรอทำไมอาจารย์ถึงออกอาการขนาดนั้น
"อ๋อ กูเขียนชื่อแกตกไปตัวนึง ลืมใส่ ท.ทหาร"
เรื่องมันนานมาแล้ว เล่าสู่กันฟังกันลืม ผ่านมายี่สิบกว่าปี เกือบสามสิบปี อาจารย์เปลี่ยนชื่อไปแล้ว
อาจารย์ชื่อ มารยาท ... ไอ้ชัชลืมใส่ ท.ทหาร 5555
บันทึกของเมื่อวาน 26 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 26 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นขึ้นมาแบบไม่อยากตื่น เมื่อคืนนอนเกือบตีสาม ดูนาฬิกา สิบโมงพอดี ลุกขึ้นแบบเฉื่อยๆ ไปกดน้ำร้อน นั่งมึนๆอยู่หน้าบ้านพักใหญ่ คนข้างๆเดินไปซื้อน้ำแข็งมาหนึ่งกระติก หิ้วลาบหมูมาด้วยถุงนึง
จัดการมื้อเช้า หรือเที่ยงก็ไม่แน่ใจเสร็จ ลับใบมีด ลับพร้าเดินเข้าสวน หญ้าแถวนี้รกมาก ปล่อยทิ้งไว้เกือบปี ต้องค่อยๆตัดเข้าไปทีละนิด ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องตัดหญ้าที่เอาไปเปลี่ยนแกน ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ต้องปรับอยู่เรื่อยๆ
เดินขึ้นไปด้านบน เจอนกแซงแซวหางบ่วง กับนกหัวขวานหงอนแดง บินอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่ช่วงนี้ยังไม่ว่างที่จะถ่ายรูป ... ฝากไว้ก่อนเถอะ เสร็จธุระแล้วจะมานั่งเฝ้าทั้งวันเลย
ตัดหญ้าติดๆมาหลายวัน ทำให้ได้รู้ว่า พวกที่มาเก็บมะพร้าว จะกินกาแฟกระป๋อง เบอร์ดี้สีแดง กับ เนสกาแฟสีเขียว คนตัดไม้คนก่อนกิน ลิโพวิตันดี คนตัดยางคนก่อนกินคาราบาวแดง
สาเหตุที่รู้ได้ละเอียด เพราะทั้งหมดกินเสร็จแล้วก็จะทิ้งขวด ทิ้งกระป๋องไว้แถวๆนั้นแหละ เวลาตัดหญ้าต้องคอยหลบๆขวดกับกระป๋องพวกนี้อยู่ตลอดเวลา
สี่โมงเย็น เอากล้วยหินไปฝากป้านี ซื้ออาหารอีสานไปฝากทีมงานบ้านริมน้ำ ขนหินกับทรายใส่ท้ายรถ จะเอามาเทพื้นฐานศาลพระภูมิ ... พระเป็นตัวๆ ไหว้ยากนัก มาไหว้ภูมิ ไหว้บรรพบุรุษเสียดีกว่า
ออกจากบ้านริมน้ำ ไปบ้านพี่หมู สัญญา เอาต้นตะขบ กับทุเรียนเทศ เงาะบ้าน จันผา ใส่รถมาปลูกเล่นๆ เฮียเก่งขอทุเรียนเทศ 2 ต้น เลยแวะเอากลับไปให้อีกที
ทีมงานกำลังจะออกจากบ้านริมน้ำ ไปเซนทรัลกัน คืนนี้เฮียเก่งไลฟ์สดมาจากลานเบียร์เซนทรัลซะด้วย เทคโนโลยีสื่อสารเดี๋ยวนี้มันไวจริงๆ
กลับบ้าน นอนพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำ ร่างกายอ่อนเพลีย เหมือนจะเหนื่อยแต่คงเป็นเพราะอากาศร้อนมากกว่า ช่วงนี้อากาศร้อนกว่าเดือนก่อนๆ นี่ขนาดยังไม่เข้าเดือนห้า เมษา สงกรานต์จะร้อนขนาดไหน
ตื่นขึ้นมาแบบไม่อยากตื่น เมื่อคืนนอนเกือบตีสาม ดูนาฬิกา สิบโมงพอดี ลุกขึ้นแบบเฉื่อยๆ ไปกดน้ำร้อน นั่งมึนๆอยู่หน้าบ้านพักใหญ่ คนข้างๆเดินไปซื้อน้ำแข็งมาหนึ่งกระติก หิ้วลาบหมูมาด้วยถุงนึง
จัดการมื้อเช้า หรือเที่ยงก็ไม่แน่ใจเสร็จ ลับใบมีด ลับพร้าเดินเข้าสวน หญ้าแถวนี้รกมาก ปล่อยทิ้งไว้เกือบปี ต้องค่อยๆตัดเข้าไปทีละนิด ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องตัดหญ้าที่เอาไปเปลี่ยนแกน ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ต้องปรับอยู่เรื่อยๆ
เดินขึ้นไปด้านบน เจอนกแซงแซวหางบ่วง กับนกหัวขวานหงอนแดง บินอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่ช่วงนี้ยังไม่ว่างที่จะถ่ายรูป ... ฝากไว้ก่อนเถอะ เสร็จธุระแล้วจะมานั่งเฝ้าทั้งวันเลย
ตัดหญ้าติดๆมาหลายวัน ทำให้ได้รู้ว่า พวกที่มาเก็บมะพร้าว จะกินกาแฟกระป๋อง เบอร์ดี้สีแดง กับ เนสกาแฟสีเขียว คนตัดไม้คนก่อนกิน ลิโพวิตันดี คนตัดยางคนก่อนกินคาราบาวแดง
สาเหตุที่รู้ได้ละเอียด เพราะทั้งหมดกินเสร็จแล้วก็จะทิ้งขวด ทิ้งกระป๋องไว้แถวๆนั้นแหละ เวลาตัดหญ้าต้องคอยหลบๆขวดกับกระป๋องพวกนี้อยู่ตลอดเวลา
สี่โมงเย็น เอากล้วยหินไปฝากป้านี ซื้ออาหารอีสานไปฝากทีมงานบ้านริมน้ำ ขนหินกับทรายใส่ท้ายรถ จะเอามาเทพื้นฐานศาลพระภูมิ ... พระเป็นตัวๆ ไหว้ยากนัก มาไหว้ภูมิ ไหว้บรรพบุรุษเสียดีกว่า
ออกจากบ้านริมน้ำ ไปบ้านพี่หมู สัญญา เอาต้นตะขบ กับทุเรียนเทศ เงาะบ้าน จันผา ใส่รถมาปลูกเล่นๆ เฮียเก่งขอทุเรียนเทศ 2 ต้น เลยแวะเอากลับไปให้อีกที
ทีมงานกำลังจะออกจากบ้านริมน้ำ ไปเซนทรัลกัน คืนนี้เฮียเก่งไลฟ์สดมาจากลานเบียร์เซนทรัลซะด้วย เทคโนโลยีสื่อสารเดี๋ยวนี้มันไวจริงๆ
กลับบ้าน นอนพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำ ร่างกายอ่อนเพลีย เหมือนจะเหนื่อยแต่คงเป็นเพราะอากาศร้อนมากกว่า ช่วงนี้อากาศร้อนกว่าเดือนก่อนๆ นี่ขนาดยังไม่เข้าเดือนห้า เมษา สงกรานต์จะร้อนขนาดไหน
บันทึกของเมื่อวาน 25 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 25 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นเช้ามา ทุกอย่างเหมือนเดิม นั่งฟังเสียงนกร้อง ให้อาหารปลาหน้าบ้าน กินข้าวกับไข่ต้ม จุ๊บโทรมาบอกเรื่องหมอ ที่จะให้พ่อไปตรวจ ตกลงไว้ว่าวันจันทร์จะเข้าไปจองคิวที่คลีนิคก่อน นัดวันตรวจแล้วค่อยว่ากัน ว่าหมอจะให้ทำอย่างไรต่อไป
เข้าสวนไปทำงานต่อ ตัดหญ้า กวาดโคนมังคุด แต่งกิ่ง ขยับขยาย จัดแนวปลูกหมากเพิ่ม ได้พื้นที่มาอีกประมาณ 20 ต้น รวมๆแล้วอาทิตย์นี้จัดแนวปลูกหมากเพิ่มได้ประมาณ 60 ต้น แต่จะรอดกี่ต้นค่อยมาว่ากันอีกที ช่วงนี้แดดร้อนจัด กลัวจะไม่รอด .. เหลือแค่ไหนก็เอาแค่นั้น
มะพร้าวน้ำหอม รุ่นแรกที่ปลูกไว้เมื่อ สองปีที่แล้วเริ่มสวย ตั้งต้นเป็นทรงสูงขึ้นมาประมาณ เมตรกว่าๆ รุ่นนี้ปลูกไว้ ยี่สิบกว่าต้น รุ่นสองปลูกเมื่อปีที่แล้ว ห้าสิบต้น รุ่นสามปีนี้ ปลูกมาหลายสิบต้นแล้ว แต่ยังไม่ได้นับจริงจังว่าเท่าไหร่ จบงานค่อยสรุปทีเดียว
เอาอาหารไปให้ปลาในห้วย เพิ่งเห็นว่าในบ่อใหญ่มีปลาดุกหลายตัว แต่ตัวโตกว่าที่อยู่ในห้วย ปลากั้งเริ่มคุ้นกับอาหาร ออกมาให้เห็นใกล้ขึ้นกว่าเมื่อก่อน ปลาหางนกยูงในบ่อใต้ต้นมังคุดมีเยอะมาก คิดไว้ว่าจะหาเวลาว่างไปตักออกมาปล่อยในบ่ออื่นๆเพื่อขยายพันธุ์เพิ่มอีก
วันนี้ได้ยินเสียงนกหัวขวานอยู่หลายครั้ง แต่ยังไม่เห็นตัว เสียงเครื่องตัดหญ้าดัง นกหายหมด ลุงเดินมาบอกพ่อว่า ที่กอไผ่ใหญ่มีงูเห่า คนที่มาฉีดยาฆ่าหญ้าเจอแล้วมาบอก
จริงๆแล้วผมรู้นานแล้วว่าตรงนั้นมีงูอยู่ เวลาทำอะไรจะไม่เข้าไปใกล้ๆแถวนั้น เหลือที่ไว้ให้เขาอยู่บ้าง ที่นี้ เขาอยู่ของเขาดีๆ ไปฉีดยาฆ่าหญ้า เวลาเลื้อยเขาแสบผิว แสบท้อง ดินก็แห้งแข็ง เขาก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ จะที่ไหนละ ก็มาอยู่ในสวนผมนี่ไง ดินดี มีน้ำ ร่มรื่น ไม่ร้อน
ปีนี้คงต้องทะเลาะกับงูอีกแน่ๆ รอบๆข้างฉีดยาฆ่าหญ้ากันหมด คราวนี้คงจะย้ายมาอยู่แถวนี้กันเยอะกว่าเดิม ที่แน่ๆ ปีนี้เจองูเห่าสองตัวแล้ว
วันนี้ตัดหญ้าเสร็จไปอีกล็อค พรุ่งนี้มาเริ่มในที่ปลูกมะพร้าวเมื่อปีที่แล้ว เดินไปดูแนวที่จะตัดหญ้าไว้ก่อน เห็นว่าต้นกำลังสวยเช่นกัน แต่หญ้ารกมาก พรุ่งนี้ต้องลับใบมีดให้คมกว่าปกติ จะได้ไม่เหนื่อยมากนัก
กลับลงมาตอนบ่ายสองกว่าๆ พ่อมานั่งเล่นที่บ้าน คุยไปคุยมาแล้วหลับไป พ่อตื่นกลับไปตอนบ่ายสาม คราวนี้ผมเริ่มง่วงบ้าง หลับไป ตื่นมาเกือบหนึ่งทุ่ม อยากกินอะไรหวานๆ เลยออกไปกินขนมปังปิ้งกับชาเย็นที่ริมน้ำท่าข้าม
ป็อกกับเก๋เอาแกงไตปลามาให้ นั่งกินน้ำชา นั่งคุยกันพักใหญ่ จนสามทุ่มแยกย้ายกันกลับบ้าน
ถึงบ้านจัดการเจียวไข่เพิ่มอีกหน่อย กินกับแกงไตปลา ป็อกบอกว่าไม่เผ็ด แต่กินไปกินมา เหงื่อ ออกมาเต็มหัวเลย แบบนี้น่าจะเรียกว่าเหงื่อหัวหงอก คล้ายๆกับเหงื่อหัวล้าน ที่เขาเรียกกัน
วันนี้นอนกลางวัน แถมกินน้ำชามาอีก เวลาจะนอนก็ไม่ยอมหลับ ตีหนึ่งกว่าๆตายังใสแจ๋ว นอนเล่นโทรศัพท์ พยายามข้ามเรื่องธรรมกายไป ไม่อยากอ่านมาก รู้สึกเป็นอัปมงคลชีวิต
สวดมนต์ไหว้พระ นอนหลับตาไปเรื่อยๆ จนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ... พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะมาก ที่แน่ๆ ตีสองครึ่งยังไม่หลับที
ตื่นเช้ามา ทุกอย่างเหมือนเดิม นั่งฟังเสียงนกร้อง ให้อาหารปลาหน้าบ้าน กินข้าวกับไข่ต้ม จุ๊บโทรมาบอกเรื่องหมอ ที่จะให้พ่อไปตรวจ ตกลงไว้ว่าวันจันทร์จะเข้าไปจองคิวที่คลีนิคก่อน นัดวันตรวจแล้วค่อยว่ากัน ว่าหมอจะให้ทำอย่างไรต่อไป
เข้าสวนไปทำงานต่อ ตัดหญ้า กวาดโคนมังคุด แต่งกิ่ง ขยับขยาย จัดแนวปลูกหมากเพิ่ม ได้พื้นที่มาอีกประมาณ 20 ต้น รวมๆแล้วอาทิตย์นี้จัดแนวปลูกหมากเพิ่มได้ประมาณ 60 ต้น แต่จะรอดกี่ต้นค่อยมาว่ากันอีกที ช่วงนี้แดดร้อนจัด กลัวจะไม่รอด .. เหลือแค่ไหนก็เอาแค่นั้น
มะพร้าวน้ำหอม รุ่นแรกที่ปลูกไว้เมื่อ สองปีที่แล้วเริ่มสวย ตั้งต้นเป็นทรงสูงขึ้นมาประมาณ เมตรกว่าๆ รุ่นนี้ปลูกไว้ ยี่สิบกว่าต้น รุ่นสองปลูกเมื่อปีที่แล้ว ห้าสิบต้น รุ่นสามปีนี้ ปลูกมาหลายสิบต้นแล้ว แต่ยังไม่ได้นับจริงจังว่าเท่าไหร่ จบงานค่อยสรุปทีเดียว
เอาอาหารไปให้ปลาในห้วย เพิ่งเห็นว่าในบ่อใหญ่มีปลาดุกหลายตัว แต่ตัวโตกว่าที่อยู่ในห้วย ปลากั้งเริ่มคุ้นกับอาหาร ออกมาให้เห็นใกล้ขึ้นกว่าเมื่อก่อน ปลาหางนกยูงในบ่อใต้ต้นมังคุดมีเยอะมาก คิดไว้ว่าจะหาเวลาว่างไปตักออกมาปล่อยในบ่ออื่นๆเพื่อขยายพันธุ์เพิ่มอีก
วันนี้ได้ยินเสียงนกหัวขวานอยู่หลายครั้ง แต่ยังไม่เห็นตัว เสียงเครื่องตัดหญ้าดัง นกหายหมด ลุงเดินมาบอกพ่อว่า ที่กอไผ่ใหญ่มีงูเห่า คนที่มาฉีดยาฆ่าหญ้าเจอแล้วมาบอก
จริงๆแล้วผมรู้นานแล้วว่าตรงนั้นมีงูอยู่ เวลาทำอะไรจะไม่เข้าไปใกล้ๆแถวนั้น เหลือที่ไว้ให้เขาอยู่บ้าง ที่นี้ เขาอยู่ของเขาดีๆ ไปฉีดยาฆ่าหญ้า เวลาเลื้อยเขาแสบผิว แสบท้อง ดินก็แห้งแข็ง เขาก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ จะที่ไหนละ ก็มาอยู่ในสวนผมนี่ไง ดินดี มีน้ำ ร่มรื่น ไม่ร้อน
ปีนี้คงต้องทะเลาะกับงูอีกแน่ๆ รอบๆข้างฉีดยาฆ่าหญ้ากันหมด คราวนี้คงจะย้ายมาอยู่แถวนี้กันเยอะกว่าเดิม ที่แน่ๆ ปีนี้เจองูเห่าสองตัวแล้ว
วันนี้ตัดหญ้าเสร็จไปอีกล็อค พรุ่งนี้มาเริ่มในที่ปลูกมะพร้าวเมื่อปีที่แล้ว เดินไปดูแนวที่จะตัดหญ้าไว้ก่อน เห็นว่าต้นกำลังสวยเช่นกัน แต่หญ้ารกมาก พรุ่งนี้ต้องลับใบมีดให้คมกว่าปกติ จะได้ไม่เหนื่อยมากนัก
กลับลงมาตอนบ่ายสองกว่าๆ พ่อมานั่งเล่นที่บ้าน คุยไปคุยมาแล้วหลับไป พ่อตื่นกลับไปตอนบ่ายสาม คราวนี้ผมเริ่มง่วงบ้าง หลับไป ตื่นมาเกือบหนึ่งทุ่ม อยากกินอะไรหวานๆ เลยออกไปกินขนมปังปิ้งกับชาเย็นที่ริมน้ำท่าข้าม
ป็อกกับเก๋เอาแกงไตปลามาให้ นั่งกินน้ำชา นั่งคุยกันพักใหญ่ จนสามทุ่มแยกย้ายกันกลับบ้าน
ถึงบ้านจัดการเจียวไข่เพิ่มอีกหน่อย กินกับแกงไตปลา ป็อกบอกว่าไม่เผ็ด แต่กินไปกินมา เหงื่อ ออกมาเต็มหัวเลย แบบนี้น่าจะเรียกว่าเหงื่อหัวหงอก คล้ายๆกับเหงื่อหัวล้าน ที่เขาเรียกกัน
วันนี้นอนกลางวัน แถมกินน้ำชามาอีก เวลาจะนอนก็ไม่ยอมหลับ ตีหนึ่งกว่าๆตายังใสแจ๋ว นอนเล่นโทรศัพท์ พยายามข้ามเรื่องธรรมกายไป ไม่อยากอ่านมาก รู้สึกเป็นอัปมงคลชีวิต
สวดมนต์ไหว้พระ นอนหลับตาไปเรื่อยๆ จนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ... พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะมาก ที่แน่ๆ ตีสองครึ่งยังไม่หลับที
บันทึกของเมื่อวาน 24 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 24 กุมภาพันธ์ 2560
เช้าวันนี้เหมือนทุกๆวัน เดินไปดูนกหลังบ้าน มีตัวเล็กๆอยู่หลายตัว แต่แมงปอลายเสือหายไปหมดแล้ว เมื่อวานเห็นที่หลังบ้านลุง มีคนมาฉีดยาฆ่าหญ้า เวลาฉีดยาฆ่าหญ้า แมลง ตั๊กแตน และหิ่งห้อย จะหายไป ซึ่งทำอะไรไม่ได้ ... ไม่ใช่ที่ของเรา
เข้าไปในสวนเอาอาหารไปให้ปลา ให้บ่อแรกเสร็จ มือไม้อ่อน ทำแก้วใส่อาหารปลาคว่ำซะงั้น สุดท้ายปลาบ่อนี้ได้กินอยู่บ่อเดียว ที่เหลืออดไปก่อน
กลับลงมาที่บ้าน พ่อซื้อปาท่องโก๋มาแขวนไว้หน้าบ้าน จัดการกินกาแฟ นั่งเล่นกับแมว รอเมียทำกับข้าว วันนี้มีผัดหมูกับผักกาดขาว กินข้าวเสร็จ ตัดกล้วยหินข้างบ้าน 1 เครือ กล้วยหักมุก 1 เครือ เอามาตั้งไว้ก่อน จะเอาไปไหนค่อยคิดอีกที
จัดคาราบาวแดง 1 ขวด เข้าสวนไปตัดหญ้า ปรับพื้นที่เข้าไปเรื่อยๆ วันนี้เข้าไปถึงบ่อน้ำเก่า มีมาตั้งแต่สมัยปู่ มีต้นคล้าน้ำอยู่หลายกอ เราเรียกบริเวณนี้ว่าบ่อคล้า มองๆลงไปในบ่อเห็นมีลูกปลาช่อนตัวเล็กๆอยู่หลายตัว
นี่ถ้าคนรุ่นก่อนผมมาเห็น จะบอกว่า ลูกครอกปลาช่อนแดงเต็มบ่อเลย ทั้งๆที่มันสีส้ม คล้ายๆกับที่เรียกช้อนเขียว ที่มันเป็นสีน้ำเงินนั่นแหละ
ปีนี้ตั้งใจจะทำงานแบบครบวงจรทีเดียว ไม่เหมือนปีก่อนๆ ที่ตัดหญ้าจะตัดจนเสร็จทั้งหมดแล้วค่อยทำอย่างอื่น บางปีก็ทำไม่ทัน ปีนี้เลยทำให้เสร็จเป็นพื้นที่ไปเลย อย่างเช่น ตัดหญ้า แต่งกิ่ง ปลูก ทำตรงไหนก็ทำให้เสร็จทีเดียวเลย
เมื่อวาน ตัดหญ้า ปลูกหมากตามแนวทางเดิน และริมห้วย ได้ราวๆสี่สิบต้น เคลียร์พื้นที่ใส่มะพร้าวน้ำหอม 1 ต้น มะพร้าวแกง 1 ต้น มันเป็นการทำสวนแบบคนบ้า ทำไปตามที่คิด ส่วนผลจะเป็นอย่างไร รอดูอีก สอง สามปีครับ
บ่ายๆ ออกไปซื้อน้ำมันเครื่องตัดหญ้า เอารถออกไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ออโต้บอย หัวเตย ร้านนี้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องแถมเลี้ยงข้าวด้วย มีกุนเชียงทอด ต้มหน่อไม้ ผัดหน่อไม้ ... น่ามาทุกวัน
กินอิ่มแล้ว รถเสร็จแล้ว เข้าเมืองมาริมน้ำ ว่าจะจับโปเกม่อน แต่ร้อนจัด แถมไม่มีตัวดีๆเกิด เลยเปลี่ยนไปสนามกีฬาแทน เจอโชคชัย มาขายน้ำผักสกัด นั่งคุยเป็นเพื่อนอยู่จนทุ่มครึ่งก็กลับบ้าน
แวะเติมน้ำมันบางจาก เป็นปั๊มแบบเติมเอง ราคาจะถูกกว่าปกติ 30 สตางค์ กลับเข้าบ้านกินข้าวอีกจาน แล้ว อีโว แปลงร่างโปเกม่อน เสร็จแล้วหลับยาวจนเช้าเลย
เช้าวันนี้เหมือนทุกๆวัน เดินไปดูนกหลังบ้าน มีตัวเล็กๆอยู่หลายตัว แต่แมงปอลายเสือหายไปหมดแล้ว เมื่อวานเห็นที่หลังบ้านลุง มีคนมาฉีดยาฆ่าหญ้า เวลาฉีดยาฆ่าหญ้า แมลง ตั๊กแตน และหิ่งห้อย จะหายไป ซึ่งทำอะไรไม่ได้ ... ไม่ใช่ที่ของเรา
เข้าไปในสวนเอาอาหารไปให้ปลา ให้บ่อแรกเสร็จ มือไม้อ่อน ทำแก้วใส่อาหารปลาคว่ำซะงั้น สุดท้ายปลาบ่อนี้ได้กินอยู่บ่อเดียว ที่เหลืออดไปก่อน
กลับลงมาที่บ้าน พ่อซื้อปาท่องโก๋มาแขวนไว้หน้าบ้าน จัดการกินกาแฟ นั่งเล่นกับแมว รอเมียทำกับข้าว วันนี้มีผัดหมูกับผักกาดขาว กินข้าวเสร็จ ตัดกล้วยหินข้างบ้าน 1 เครือ กล้วยหักมุก 1 เครือ เอามาตั้งไว้ก่อน จะเอาไปไหนค่อยคิดอีกที
จัดคาราบาวแดง 1 ขวด เข้าสวนไปตัดหญ้า ปรับพื้นที่เข้าไปเรื่อยๆ วันนี้เข้าไปถึงบ่อน้ำเก่า มีมาตั้งแต่สมัยปู่ มีต้นคล้าน้ำอยู่หลายกอ เราเรียกบริเวณนี้ว่าบ่อคล้า มองๆลงไปในบ่อเห็นมีลูกปลาช่อนตัวเล็กๆอยู่หลายตัว
นี่ถ้าคนรุ่นก่อนผมมาเห็น จะบอกว่า ลูกครอกปลาช่อนแดงเต็มบ่อเลย ทั้งๆที่มันสีส้ม คล้ายๆกับที่เรียกช้อนเขียว ที่มันเป็นสีน้ำเงินนั่นแหละ
ปีนี้ตั้งใจจะทำงานแบบครบวงจรทีเดียว ไม่เหมือนปีก่อนๆ ที่ตัดหญ้าจะตัดจนเสร็จทั้งหมดแล้วค่อยทำอย่างอื่น บางปีก็ทำไม่ทัน ปีนี้เลยทำให้เสร็จเป็นพื้นที่ไปเลย อย่างเช่น ตัดหญ้า แต่งกิ่ง ปลูก ทำตรงไหนก็ทำให้เสร็จทีเดียวเลย
เมื่อวาน ตัดหญ้า ปลูกหมากตามแนวทางเดิน และริมห้วย ได้ราวๆสี่สิบต้น เคลียร์พื้นที่ใส่มะพร้าวน้ำหอม 1 ต้น มะพร้าวแกง 1 ต้น มันเป็นการทำสวนแบบคนบ้า ทำไปตามที่คิด ส่วนผลจะเป็นอย่างไร รอดูอีก สอง สามปีครับ
บ่ายๆ ออกไปซื้อน้ำมันเครื่องตัดหญ้า เอารถออกไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ออโต้บอย หัวเตย ร้านนี้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องแถมเลี้ยงข้าวด้วย มีกุนเชียงทอด ต้มหน่อไม้ ผัดหน่อไม้ ... น่ามาทุกวัน
กินอิ่มแล้ว รถเสร็จแล้ว เข้าเมืองมาริมน้ำ ว่าจะจับโปเกม่อน แต่ร้อนจัด แถมไม่มีตัวดีๆเกิด เลยเปลี่ยนไปสนามกีฬาแทน เจอโชคชัย มาขายน้ำผักสกัด นั่งคุยเป็นเพื่อนอยู่จนทุ่มครึ่งก็กลับบ้าน
แวะเติมน้ำมันบางจาก เป็นปั๊มแบบเติมเอง ราคาจะถูกกว่าปกติ 30 สตางค์ กลับเข้าบ้านกินข้าวอีกจาน แล้ว อีโว แปลงร่างโปเกม่อน เสร็จแล้วหลับยาวจนเช้าเลย
บันทึกของเมื่อวาน 23 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 23 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นหกโมงเช้า กวาดใบไม้หน้าบ้าน เก็บกิ่งไม้ เศษใบไม้ที่เหลือจากเมื่อวาน สูบน้ำในบ่อปลาหน้าบ้านออกอีกนิดหน่อย เดินขึ้นไปให้อาหารปลาในห้วยหลังบ้าน เป็นอาหารปลาดุกเม็ดเล็กที่ซื้อมาจากตลาด ปกติจะใช้เลี้ยงปลาในบ่อหน้าบ้าน แต่ช่วงหลังๆต้องเอาไปเผื่อให้ปลาธรรมชาติในสวนด้วย
กลับลงมาไปเอาเครื่องตัดหญ้าที่พามาซ่อมไว้ที่ร้านตั้งแต่เมื่อวาน ค่าเสียหาย 750 บาท รวมค่าหัวเทียนใหม่ด้วย กลับมาถึงบ้านเพิ่มพลังด้วยคาราบาวแดงหนึ่งขวด แล้วขึ้นไปตัดหญ้าด้านบน วันนี้เข้ามาถึงทางเดินในสวนแล้ว ที่ด้านหน้าเสร็จหมดแล้ว
สตาร์ทเครื่อง พอเริ่มตัด ปรากฏว่ามีปัญหา ตัวคันเร่งมือจับมันหลวม หมุนไปตามแกนที่เปลี่ยนมาใหม่ ดับเครื่องแล้วลองมองดูชัดๆ อ้าว ... น็อตขาดไปตัวนึง คำว่าน็อตขาดคือที่ร้านถอดออกมาตอนเปลี่ยนแกน แล้วขาดติดอยู่ในรู เหลือตัวยึดสามตัว แต่ตรงนี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้หลวม
พลิกเครื่องตัดหญ้า ถอดน็อตด้านล่างออก เดินกลับมาที่บ้าน เอาเทปละลาย ที่ใช้พันจัมป์เปอร์บนเสาสัญญาณสมัยก่อนนู้น มาพันก่อนจะลองขันน็อต ยึดตัวล็อคมือจับคันเร่งกลับเข้าไปใหม่ ... ใช้ได้ตามปกติ
ร้านนี้เป็นร้านประจำที่ใช้บริการกันมาหลายปี เมื่อก่อนจะมีลูกจ้างทำงานอยู่ด้วย เจ้าคนนี้เก่ง ทำงานดี แต่ช่วงหลังมานี้ไม่เห็นแล้ว เจ้าของร้านเอาลูกชายมาทำแทน งานออกมาไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่
ตัดหญ้าขึ้นไปเป็นระยะ หยุดใช้พร้าฟันกิ่งไม้ไปด้วย ปีนี้จะดูแลให้ดีกว่าปีที่แล้ว ตอนบ่ายๆพ่อเดินขึ้นมานั่งดูด้วย แกบอกว่าในสวนเย็นกว่าที่บ้าน แต่ช่วงนี้อากาศร้อนจริงๆ อยากได้ฝนซักสองสามวันติดๆกันจังเลย
เสร็จงานสวน ออกไปเซนทรัล แวะเอาหน่อไม้ไปให้ป็อก 2 หน่อ กลับมาไม่ทันถึงบ้าน ป็อกส่งรูปมาในไลน์ ต้มหมูกับหน่อไม้เสร็จแล้ว ดูน่ากินมากเลยทีเดียว
วันนี้ที่เซนทรัล เข้าไปเจอวงสครัป กำลังซาวด์เช็คอยู่พอดี เครื่องเสียงดีมากเลย เป็นงานของเบียร์ช้าง เสียดายที่ผมเลิกกินเหล้า กินเบียร์หลายปีแล้ว คืนนี้เลยไม่ได้ไปนั่งดู แต่พอกลับถึงบ้านเฮียเก่งส่งรูปสาวเบียร์ช้างมาให้ดูซะงั้น ... ทำเอาอยากไปดูด้วยเลย
กลับจากเซนทรัล ไปหาถ่ายรูปที่ท่าข้าม ไม่ได้ถ่ายมาหลายวันแล้ว วันนี้ถ่ายรูปมัสยิดกลางพุนพินมาสอง สามรูป มือยังสั่นๆ ยังไม่ค่อยสนุกกับการถ่ายรูปซักเท่าไหร่ วันนี้ที่ออกมา ตั้งใจว่าจะไปกินขนมปัง ชาเย็นที่ริมน้ำ เรื่องถ่ายรูปเป็นผลพลอยได้ แต่ดูเวลาตอนนี้เพิ่งจะหกโมงกว่า เลยแวะไปจับโปเกม่อนที่สถานีรถไฟ รอให้มืดกว่านี้ค่อยไปกินน้ำชาริมน้ำ
ขบวน 86 รถด่วน นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ เข้ามาพอดี เจอพี่ขุ้ยกับพี่ขวาน เป็น พขร.กับชค. ทำขบวนมาพอดี เลยยืนคุยกันพักใหญ่ แซวแกไปว่า โมโหเรื่องอะไรถึงได้ย้ายผู้ว่าการ ปลดบอร์ดยกทีมแบบนั้น
จนได้เวลาปล่อยขบวนรถ วันนี้รถตามเวลาแทบทุกขบวน ร่ำลาแยกย้ายกันตรงนั้น เพื่อนจุ๊บโทรมาคุย เรื่องที่จะพาพ่อไปตรวจสุขภาพ เสร็จแล้วไปกินน้ำชาริมน้ำ ก่อนจะกลับมาในซอยจีรพันธ์ หิ้วเส้นหมี่ลูกชิ้นหมู มากินเล่นๆก่อนนอนอีกถุงนึง
คืนนี้นอนเร็วอีกแล้ว สวดมนต์ ไหว้พระ ก่อนนอน ด้วยความมั่นใจในพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าจะมีพระชั่วๆมาใช้ศาสนาหากินอยู่มากมายก็ตาม
ตื่นหกโมงเช้า กวาดใบไม้หน้าบ้าน เก็บกิ่งไม้ เศษใบไม้ที่เหลือจากเมื่อวาน สูบน้ำในบ่อปลาหน้าบ้านออกอีกนิดหน่อย เดินขึ้นไปให้อาหารปลาในห้วยหลังบ้าน เป็นอาหารปลาดุกเม็ดเล็กที่ซื้อมาจากตลาด ปกติจะใช้เลี้ยงปลาในบ่อหน้าบ้าน แต่ช่วงหลังๆต้องเอาไปเผื่อให้ปลาธรรมชาติในสวนด้วย
กลับลงมาไปเอาเครื่องตัดหญ้าที่พามาซ่อมไว้ที่ร้านตั้งแต่เมื่อวาน ค่าเสียหาย 750 บาท รวมค่าหัวเทียนใหม่ด้วย กลับมาถึงบ้านเพิ่มพลังด้วยคาราบาวแดงหนึ่งขวด แล้วขึ้นไปตัดหญ้าด้านบน วันนี้เข้ามาถึงทางเดินในสวนแล้ว ที่ด้านหน้าเสร็จหมดแล้ว
สตาร์ทเครื่อง พอเริ่มตัด ปรากฏว่ามีปัญหา ตัวคันเร่งมือจับมันหลวม หมุนไปตามแกนที่เปลี่ยนมาใหม่ ดับเครื่องแล้วลองมองดูชัดๆ อ้าว ... น็อตขาดไปตัวนึง คำว่าน็อตขาดคือที่ร้านถอดออกมาตอนเปลี่ยนแกน แล้วขาดติดอยู่ในรู เหลือตัวยึดสามตัว แต่ตรงนี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้หลวม
พลิกเครื่องตัดหญ้า ถอดน็อตด้านล่างออก เดินกลับมาที่บ้าน เอาเทปละลาย ที่ใช้พันจัมป์เปอร์บนเสาสัญญาณสมัยก่อนนู้น มาพันก่อนจะลองขันน็อต ยึดตัวล็อคมือจับคันเร่งกลับเข้าไปใหม่ ... ใช้ได้ตามปกติ
ร้านนี้เป็นร้านประจำที่ใช้บริการกันมาหลายปี เมื่อก่อนจะมีลูกจ้างทำงานอยู่ด้วย เจ้าคนนี้เก่ง ทำงานดี แต่ช่วงหลังมานี้ไม่เห็นแล้ว เจ้าของร้านเอาลูกชายมาทำแทน งานออกมาไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่
ตัดหญ้าขึ้นไปเป็นระยะ หยุดใช้พร้าฟันกิ่งไม้ไปด้วย ปีนี้จะดูแลให้ดีกว่าปีที่แล้ว ตอนบ่ายๆพ่อเดินขึ้นมานั่งดูด้วย แกบอกว่าในสวนเย็นกว่าที่บ้าน แต่ช่วงนี้อากาศร้อนจริงๆ อยากได้ฝนซักสองสามวันติดๆกันจังเลย
เสร็จงานสวน ออกไปเซนทรัล แวะเอาหน่อไม้ไปให้ป็อก 2 หน่อ กลับมาไม่ทันถึงบ้าน ป็อกส่งรูปมาในไลน์ ต้มหมูกับหน่อไม้เสร็จแล้ว ดูน่ากินมากเลยทีเดียว
วันนี้ที่เซนทรัล เข้าไปเจอวงสครัป กำลังซาวด์เช็คอยู่พอดี เครื่องเสียงดีมากเลย เป็นงานของเบียร์ช้าง เสียดายที่ผมเลิกกินเหล้า กินเบียร์หลายปีแล้ว คืนนี้เลยไม่ได้ไปนั่งดู แต่พอกลับถึงบ้านเฮียเก่งส่งรูปสาวเบียร์ช้างมาให้ดูซะงั้น ... ทำเอาอยากไปดูด้วยเลย
กลับจากเซนทรัล ไปหาถ่ายรูปที่ท่าข้าม ไม่ได้ถ่ายมาหลายวันแล้ว วันนี้ถ่ายรูปมัสยิดกลางพุนพินมาสอง สามรูป มือยังสั่นๆ ยังไม่ค่อยสนุกกับการถ่ายรูปซักเท่าไหร่ วันนี้ที่ออกมา ตั้งใจว่าจะไปกินขนมปัง ชาเย็นที่ริมน้ำ เรื่องถ่ายรูปเป็นผลพลอยได้ แต่ดูเวลาตอนนี้เพิ่งจะหกโมงกว่า เลยแวะไปจับโปเกม่อนที่สถานีรถไฟ รอให้มืดกว่านี้ค่อยไปกินน้ำชาริมน้ำ
ขบวน 86 รถด่วน นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ เข้ามาพอดี เจอพี่ขุ้ยกับพี่ขวาน เป็น พขร.กับชค. ทำขบวนมาพอดี เลยยืนคุยกันพักใหญ่ แซวแกไปว่า โมโหเรื่องอะไรถึงได้ย้ายผู้ว่าการ ปลดบอร์ดยกทีมแบบนั้น
จนได้เวลาปล่อยขบวนรถ วันนี้รถตามเวลาแทบทุกขบวน ร่ำลาแยกย้ายกันตรงนั้น เพื่อนจุ๊บโทรมาคุย เรื่องที่จะพาพ่อไปตรวจสุขภาพ เสร็จแล้วไปกินน้ำชาริมน้ำ ก่อนจะกลับมาในซอยจีรพันธ์ หิ้วเส้นหมี่ลูกชิ้นหมู มากินเล่นๆก่อนนอนอีกถุงนึง
คืนนี้นอนเร็วอีกแล้ว สวดมนต์ ไหว้พระ ก่อนนอน ด้วยความมั่นใจในพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าจะมีพระชั่วๆมาใช้ศาสนาหากินอยู่มากมายก็ตาม
บันทึกของเมื่อวาน 22 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 22 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นมาแบบไม่กระตือรือร้นใดๆ เครื่องตัดหญ้าพัง วันนี้คงทำอะไรไม่ได้มากนัก กินมาม่าที่เหลือมาจากเมื่อคืน ที่ทำหมูย่างกินกันกับพ่อและแม่ น้ำซุปเหลือเลยเอาลูกชิ้นกับผักใส่เส้นมาม่าไว้ แต่เมื่อคืนลืมกิน
เดินขึ้นไปเก็บหมาก ดูกล้วยหอมที่กำลังจะสุกอยู่ สามเครือด้านบน ช่วงนี้กล้วยไม่สมบูรณ์นัก เจอแล้งเจอฝนแบบไม่มีความพอดีมาหลายเดือน เครือนึงมีสาม สี่หวีเท่านั้นเอง
เดินเฉียดๆไปดูตรงที่ ที่เจอพี่เห่าเมื่อวาน ทุกอย่างเงียบสนิท ไม่มีร่องรอยของพี่เขาแล้ว คงจะหลบไปหาที่สงบนอนอยู่ที่ไหนซักแห่ง ... อย่าได้เจอกันอีกเลย
กลับลงมาเอาเครื่องตัดหญ้าไปซ่อมที่ร้านประจำ เจ้าของร้านบอกว่าค่าซ่อมไม่ถึงพันหรอก อืม ... เฮียบอกเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว ทำเองไม่เป็นนี่นา
เมื่อวานเพื่อนบอกให้ไปเอาเครื่องตัดหญ้าที่บ้านมาใช้ก่อน แต่ผมไม่ได้ไปเอา เครื่องตัดหญ้าก็เหมือนรถยนต์ นั่นแหละ ของใครของมัน ขับรถคนอื่นกว่าจะลงตัว ปรับกระจก ปรับเบาะ ลองเหยียบ ลองเบรค กว่าจะเข้ามือ ดังนั้นเอาเครื่องที่ใช้ประจำไปซ่อมดีกว่า
จริงๆอยากเปรียบเทียบกับบ้องกัญชานะ แต่กลัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชน เลยเปรียบเทียบกับรถยนต์แทน
ไหนๆก็ออกจากบ้านมาแล้ว ขับรถวนไปในเมืองสุราษฎร์ธานี กินข้าวหมูแดงกับเกาเหลาก๋วยจั๊บร้านเพื่อนยิ้ว แวะเข้าไปสนามกีฬา แล้วขับรถมาริมน้ำ หมุนบอล จับโปเกม่อนพอเป็นพิธีแล้วกลับมาบ้าน
เริ่มตัดแต่งต้นไม้หน้าบ้าน ดูดน้ำบ่อปลาออก ค่อยๆล้าง ค่อยๆถ่ายน้ำไปเรื่อยๆ วันนี้ปล่อยน้ำออกก่อน พรุ่งนี้ค่อยซ้ำอีกที มีปลาอยู่ในบ่อหลายชนิด ต้องค่อยๆเปลี่ยนน้ำ จะล้างแบบขัดพื้นบ่อเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว มีลูกปลาเล็กๆอยู่มาก
ล้างบ่อ เก็บกิ่งไม้จนเกือบทุ่ม เลิกงาน เข้าบ้านกินข้าว อาบน้ำ นอนเลย ช่วงนี้นอนเร็ว หลับก่อนเที่ยงคืนมาหลายวันแล้ว
ตื่นมาแบบไม่กระตือรือร้นใดๆ เครื่องตัดหญ้าพัง วันนี้คงทำอะไรไม่ได้มากนัก กินมาม่าที่เหลือมาจากเมื่อคืน ที่ทำหมูย่างกินกันกับพ่อและแม่ น้ำซุปเหลือเลยเอาลูกชิ้นกับผักใส่เส้นมาม่าไว้ แต่เมื่อคืนลืมกิน
เดินขึ้นไปเก็บหมาก ดูกล้วยหอมที่กำลังจะสุกอยู่ สามเครือด้านบน ช่วงนี้กล้วยไม่สมบูรณ์นัก เจอแล้งเจอฝนแบบไม่มีความพอดีมาหลายเดือน เครือนึงมีสาม สี่หวีเท่านั้นเอง
เดินเฉียดๆไปดูตรงที่ ที่เจอพี่เห่าเมื่อวาน ทุกอย่างเงียบสนิท ไม่มีร่องรอยของพี่เขาแล้ว คงจะหลบไปหาที่สงบนอนอยู่ที่ไหนซักแห่ง ... อย่าได้เจอกันอีกเลย
กลับลงมาเอาเครื่องตัดหญ้าไปซ่อมที่ร้านประจำ เจ้าของร้านบอกว่าค่าซ่อมไม่ถึงพันหรอก อืม ... เฮียบอกเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว ทำเองไม่เป็นนี่นา
เมื่อวานเพื่อนบอกให้ไปเอาเครื่องตัดหญ้าที่บ้านมาใช้ก่อน แต่ผมไม่ได้ไปเอา เครื่องตัดหญ้าก็เหมือนรถยนต์ นั่นแหละ ของใครของมัน ขับรถคนอื่นกว่าจะลงตัว ปรับกระจก ปรับเบาะ ลองเหยียบ ลองเบรค กว่าจะเข้ามือ ดังนั้นเอาเครื่องที่ใช้ประจำไปซ่อมดีกว่า
จริงๆอยากเปรียบเทียบกับบ้องกัญชานะ แต่กลัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชน เลยเปรียบเทียบกับรถยนต์แทน
ไหนๆก็ออกจากบ้านมาแล้ว ขับรถวนไปในเมืองสุราษฎร์ธานี กินข้าวหมูแดงกับเกาเหลาก๋วยจั๊บร้านเพื่อนยิ้ว แวะเข้าไปสนามกีฬา แล้วขับรถมาริมน้ำ หมุนบอล จับโปเกม่อนพอเป็นพิธีแล้วกลับมาบ้าน
เริ่มตัดแต่งต้นไม้หน้าบ้าน ดูดน้ำบ่อปลาออก ค่อยๆล้าง ค่อยๆถ่ายน้ำไปเรื่อยๆ วันนี้ปล่อยน้ำออกก่อน พรุ่งนี้ค่อยซ้ำอีกที มีปลาอยู่ในบ่อหลายชนิด ต้องค่อยๆเปลี่ยนน้ำ จะล้างแบบขัดพื้นบ่อเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว มีลูกปลาเล็กๆอยู่มาก
ล้างบ่อ เก็บกิ่งไม้จนเกือบทุ่ม เลิกงาน เข้าบ้านกินข้าว อาบน้ำ นอนเลย ช่วงนี้นอนเร็ว หลับก่อนเที่ยงคืนมาหลายวันแล้ว
บันทึกของเมื่อวาน 21 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 21 กุมภาพันธ์ 2560
วันนี้ทั้งวันเพิ่งจะว่างได้นั่งกดโทรศัพท์บันทึกความทรงจำของเมื่อวาน อย่างที่เคยบอกไป ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้หยุดพักมากนัก และไม่ได้เปิดคอมเลย รู้สึกว่าแต่ละวันมันผ่านไปเร็วเหลือเกิน
วันนี้ตื่นเช้ามาก ตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ไม่รู้ว่าตื่นมาทำไมเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้รีบลุกไปไหน นอนบิดไปบิดมาจนสว่าง แล้วออกเดินไปหลังบ้าน ดูต้นไม้ ดูนก เจอเหยี่ยวตัวใหญ่อีกแล้ว เก็บขนมาเป็นที่ระลึกหนึ่งอัน
วันนี้ลุยตัดหญ้าต่อไปเรื่อยๆ ด้านหน้าเหลือเฉพาะตรงนี้แล้ว มีไม้ไผ่ต้องฟันออกอีกสองกอ ตัดหญ้าไปเรื่อยๆ จนเกือบเที่ยง ขึ้นไปเอามะพร้าวอ่อนลงมาหนึ่งทลาย เอามากินตอนเหนื่อยๆ สดชื่นดีนักแล
เดินบุกหญ้าเข้าไปเจอตาน้ำ ที่ผุดขึ้นมา เลยทำทางน้ำให้ไหลลงบ่อใหญ่ไว้ก่อน ตัดหญ้าขึ้นมาถึงตรงนี้ค่อยหาทางบริหารจัดการน้ำอีกที
ขณะที่จะเดินกลับลงมา ได้ยินเสียงใบไม้แห้งขยับๆ มีเสียงเหมือนมีตัวอะไรอยู่ตรงนั้น เดินเข้าไปดู เห็นพี่เห่าตัวขนาดด้ามพร้า ติดตาข่ายที่เคยเอามากั้นคอกไก่อยู่
พี่เขาดิ้นไปมา หาทางออกจากตาข่าย แต่คงจะดิ้นจนหมดแรงแล้ว เลยลงมาด้านล่าง ตัดไม้ไผ่ ยาวประมาณสองเมตรมาสองลำ ค่อยๆดึงตาข่ายให้ถ่างออก พี่เห่าก็ค่อยๆเลื้อยออกไป
ขณะที่ช่วยแกะออก เวลาปลายไม้ไปโดน พี่เห่าก็ขู่ ไม่ได้เป็นเสียง ฟ่อๆ แบบในหนังสือเรียนหรอก เสียงมันคล้ายๆ แมวเวลาคำรามในคอมากกว่า
พอหลุดออกไปได้ ผมยังไม่แน่ใจว่า จะไปติดตรงไหนอีกหรือเปล่า ลองเอาไม้แตะๆไปที่ตัว ปรากฏว่าพี่เขาหันกลับมาแผ่แม่เบี้ย โชว์ความสวยงามให้เห็น แสดงว่าหลุดออกมาหมดแล้ว
บอกลากัน ขอให้โชคดี ต่างคนต่างอยู่ บ้านผมไม่ให้ทำร้ายงู และงูไม่เคยทำร้ายใคร ตั้งแต่สมัยปู่ย่า มาอยู่ที่นี่ จนรุ่นผมเป็นรุ่นที่สาม เราต่างคนต่างอยู่กันมานาน อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัว ส่วนครอบครัว เราต้องไหว้พ่อตาเจ้าที่ ทุกปี โดยมีความเชื่อว่า พ่อตาเป็นงูใหญ่ หรืองูทวดที่รักษาพื้นที่ตรงนี้
เวลาหน้าแล้ง จะปล่อยหญ้าให้รก เข้าหน้าฝนเริ่มตัดหญ้า ก็จะค่อยๆ ขอคืนพื้นที่ไปเรื่อยๆ ให้เขามีเวลาย้ายที่อยู่ เป็นแบบนี้ทุกปี และถ้าจำกันได้ ผมจะถ่ายรูปงูมาให้ดูอยู่ทุกปีเช่นกัน
ลงมาจะตัดหญ้าต่อ เหลือที่เป็นกอสัปรด ที่เห็นคราบงูเมื่อวาน วันนี้ว่าจะตัดให้เสร็จ สตาร์ทเครื่อง เดินเข้าไปพอถึงตรงนั้น เครื่องตัดหญ้าแกนหัก ต้องหยุด ... สงสัยเขายังไม่ไป อันนี้ผมคิดเองในใจ
บ่ายสอง กลับลงมาพักผ่อน ออกไปตลาดซื้อหมูมาหมัก หอย ลูกชิ้น ผัก มาทำหมูย่างกินกับพ่อและแม่ กินอิ่ม ง่วงนอน วันนี้เลยเข้านอนเร็ว แต่กว่าจะหลับก็ห้าทุ่มกว่าๆ เล่นเฟซ คุยไลน์ ไปตามประสาผู้บ่าวไทบ้าน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย
วันนี้ทั้งวันเพิ่งจะว่างได้นั่งกดโทรศัพท์บันทึกความทรงจำของเมื่อวาน อย่างที่เคยบอกไป ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้หยุดพักมากนัก และไม่ได้เปิดคอมเลย รู้สึกว่าแต่ละวันมันผ่านไปเร็วเหลือเกิน
วันนี้ตื่นเช้ามาก ตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ไม่รู้ว่าตื่นมาทำไมเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้รีบลุกไปไหน นอนบิดไปบิดมาจนสว่าง แล้วออกเดินไปหลังบ้าน ดูต้นไม้ ดูนก เจอเหยี่ยวตัวใหญ่อีกแล้ว เก็บขนมาเป็นที่ระลึกหนึ่งอัน
วันนี้ลุยตัดหญ้าต่อไปเรื่อยๆ ด้านหน้าเหลือเฉพาะตรงนี้แล้ว มีไม้ไผ่ต้องฟันออกอีกสองกอ ตัดหญ้าไปเรื่อยๆ จนเกือบเที่ยง ขึ้นไปเอามะพร้าวอ่อนลงมาหนึ่งทลาย เอามากินตอนเหนื่อยๆ สดชื่นดีนักแล
เดินบุกหญ้าเข้าไปเจอตาน้ำ ที่ผุดขึ้นมา เลยทำทางน้ำให้ไหลลงบ่อใหญ่ไว้ก่อน ตัดหญ้าขึ้นมาถึงตรงนี้ค่อยหาทางบริหารจัดการน้ำอีกที
ขณะที่จะเดินกลับลงมา ได้ยินเสียงใบไม้แห้งขยับๆ มีเสียงเหมือนมีตัวอะไรอยู่ตรงนั้น เดินเข้าไปดู เห็นพี่เห่าตัวขนาดด้ามพร้า ติดตาข่ายที่เคยเอามากั้นคอกไก่อยู่
พี่เขาดิ้นไปมา หาทางออกจากตาข่าย แต่คงจะดิ้นจนหมดแรงแล้ว เลยลงมาด้านล่าง ตัดไม้ไผ่ ยาวประมาณสองเมตรมาสองลำ ค่อยๆดึงตาข่ายให้ถ่างออก พี่เห่าก็ค่อยๆเลื้อยออกไป
ขณะที่ช่วยแกะออก เวลาปลายไม้ไปโดน พี่เห่าก็ขู่ ไม่ได้เป็นเสียง ฟ่อๆ แบบในหนังสือเรียนหรอก เสียงมันคล้ายๆ แมวเวลาคำรามในคอมากกว่า
พอหลุดออกไปได้ ผมยังไม่แน่ใจว่า จะไปติดตรงไหนอีกหรือเปล่า ลองเอาไม้แตะๆไปที่ตัว ปรากฏว่าพี่เขาหันกลับมาแผ่แม่เบี้ย โชว์ความสวยงามให้เห็น แสดงว่าหลุดออกมาหมดแล้ว
บอกลากัน ขอให้โชคดี ต่างคนต่างอยู่ บ้านผมไม่ให้ทำร้ายงู และงูไม่เคยทำร้ายใคร ตั้งแต่สมัยปู่ย่า มาอยู่ที่นี่ จนรุ่นผมเป็นรุ่นที่สาม เราต่างคนต่างอยู่กันมานาน อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัว ส่วนครอบครัว เราต้องไหว้พ่อตาเจ้าที่ ทุกปี โดยมีความเชื่อว่า พ่อตาเป็นงูใหญ่ หรืองูทวดที่รักษาพื้นที่ตรงนี้
เวลาหน้าแล้ง จะปล่อยหญ้าให้รก เข้าหน้าฝนเริ่มตัดหญ้า ก็จะค่อยๆ ขอคืนพื้นที่ไปเรื่อยๆ ให้เขามีเวลาย้ายที่อยู่ เป็นแบบนี้ทุกปี และถ้าจำกันได้ ผมจะถ่ายรูปงูมาให้ดูอยู่ทุกปีเช่นกัน
ลงมาจะตัดหญ้าต่อ เหลือที่เป็นกอสัปรด ที่เห็นคราบงูเมื่อวาน วันนี้ว่าจะตัดให้เสร็จ สตาร์ทเครื่อง เดินเข้าไปพอถึงตรงนั้น เครื่องตัดหญ้าแกนหัก ต้องหยุด ... สงสัยเขายังไม่ไป อันนี้ผมคิดเองในใจ
บ่ายสอง กลับลงมาพักผ่อน ออกไปตลาดซื้อหมูมาหมัก หอย ลูกชิ้น ผัก มาทำหมูย่างกินกับพ่อและแม่ กินอิ่ม ง่วงนอน วันนี้เลยเข้านอนเร็ว แต่กว่าจะหลับก็ห้าทุ่มกว่าๆ เล่นเฟซ คุยไลน์ ไปตามประสาผู้บ่าวไทบ้าน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย
บันทึกของเมื่อวาน 20 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 20 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นตั้งแต่ตีห้า ต้มน้ำชงกาแฟ หกโมงเช้าเดินออกไปดูรถจักรยาน ทำท่าจะพาออกไปปั่นรับลม แต่เปลี่ยนใจลองเดินออกไปดูที่หน้าบ้านก่อนดีกว่า รถมากเหลือเกิน ดีแล้วที่ไม่ปั่นจักรยาน กลัวโดนรถเหยียบ ขับกันเร็วๆทั้งนั้น
กลับมานั่งเล่นหน้าบ้าน ให้อาหารปลาในบ่อหน้าบ้าน อีแรดทั้งสี่ตัวยังสมบูรณ์ดี ปลายี่สก ปลาตะเพียน ปลาคราฟ ปลาสวาย ยังอยู่รอดปลอดภัย ปลาพวกนี้อยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปีแล้ว
แปดโมงพาพ่อไปธุระที่บ้านนาเดิม กลับออกมาทางซอยสิบ ผ่านแยกบางใหญ่ กำลังทำสะพานข้ามแยก นี่ขนาดสิบโมงกว่าๆ รถยังติดขนาดนี้ ช่วงเช้ากับเย็นจะติดขนาดไหน
กินก๋วยเตี๋ยวกันคนละชาม เข้าไปเลือกศาลพระภูมิที่ร้านแถวบ้าน ตกลงกันไว้คู่ละหกพันห้าร้อย แต่ต้องไปขนเอง บอกเจ้าของร้านไว้ว่าทำพื้น เทฐานเสร็จจะมาเอา
กลับมาถึงบ้าน เอาปลาหางนกยูงขึ้นไปปล่อยในสวนอีกชุด ลองมองๆดูที่บ่อใต้ต้นมังคุดที่เคยขุดลอกเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว น้ำในบ่อนี้ไม่แห้ง เคยเอาปลามาปล่อยไว้เหมือนกัน ปรากฏว่ามีปลาเหลืออยู่หลายตัว ว่ายเป็นฝูงสวยดี แต่ต้องหาเวลามาเก็บกิ่งไม้ ใบไม้ขึ้นซักหน่อยจะสวยกว่านี้
เดินไปเดินมาเริ่มร้อน ลงไปแช่น้ำเล่น น้ำตรงนี้ ลึกประมาณเอว เย็นสบาย มีปลาดุกนา ที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมที่ไม่ผสมดุกรัสเซียอยู่หลายตัว ปกติปลาในสวนจะไม่จับกิน เก็บไว้แพร่พันธุ์อย่างเดียว ยกเว้นปลาช่อน จะกินตัวใหญ่ๆปีนึงไม่เกิน สามตัว ที่เหลือปล่อยกลับคืนไปทั้งหมด
ลงมาตัดหญ้าต่อไปอีกนิดหน่อย บุกเข้าไปในกอสัปรด เจอคราบงูเห่าขนาดเท่าๆด้ามพร้า เลยถอยกลับมาก่อน เผื่อพี่เขายังอยู่ เราให้เวลาพี่เขาย้ายบ้านคืนนึง พรุ่งนี้ค่อยบุกเข้าไปใหม่ วันนี้ได้ต้นมะนาวมาสองต้น ยังหาที่ลงปลูกไม่ได้ แต่พรุ่งนี้จะหาให้ได้ รีบปลูกก่อนที่จะเข้าเดือนสี่ เดือนห้า ติดแล้งเดี๋ยวจะไม่รอด
กลับมากินข้าวอีกรอบ หลับไปงีบนึง ตื่นมาตอนสี่โมงเย็น ออกไปปั่นบอล ฟักไข่ จับโปเกม่อน ออกกำลังกายริมน้ำ เห็นเขาเริ่มซ้อมเรือแข่งกันแล้ว คงจะมีแข่งเรือยาวใกล้ๆแถวนี้ ถ่ายรูปเอาไว้สองสามรูป แต่ยังไม่ได้ลง ยังไม่ได้ฤกษ์เปิดคอมซักที แต่เริ่มถ่ายรูปรอบๆตัวเก็บไว้พอสมควร เดี๋ยวพองานเบาๆลง จะทยอยนำมาลงให้ดูกัน
ช่วงนี้หงุดหงิดกับข่าวพระชั่วๆพอสมควร มีหลายคนบอกว่าอย่าไปว่าพระมากนัก เดี๋ยวจะบาป แต่เราก็จะเฉยไม่ได้ พุทธศาสนาจะคงอยู่ได้ต้องอาศัยพุทธบริษัท 4 อันประกอบด้วย ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ต้องช่วยกัน ในบริษัทนี้เราถือหุ้นอยู่ด้วย อย่าให้พระชั่วๆยึดอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียว
แล้วเวลาพระทำชั่วๆ จะมาห้ามจะไม่ให้ว่าได้ไง ก็พระชั่วๆนี่เลวกว่าหมาเสียอีก เพราะอย่างน้อยเราก็ไม่ต้องยกมือไหว้ ก่อนเอาข้าวให้หมากิน ... จริงๆนะ
ตื่นตั้งแต่ตีห้า ต้มน้ำชงกาแฟ หกโมงเช้าเดินออกไปดูรถจักรยาน ทำท่าจะพาออกไปปั่นรับลม แต่เปลี่ยนใจลองเดินออกไปดูที่หน้าบ้านก่อนดีกว่า รถมากเหลือเกิน ดีแล้วที่ไม่ปั่นจักรยาน กลัวโดนรถเหยียบ ขับกันเร็วๆทั้งนั้น
กลับมานั่งเล่นหน้าบ้าน ให้อาหารปลาในบ่อหน้าบ้าน อีแรดทั้งสี่ตัวยังสมบูรณ์ดี ปลายี่สก ปลาตะเพียน ปลาคราฟ ปลาสวาย ยังอยู่รอดปลอดภัย ปลาพวกนี้อยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปีแล้ว
แปดโมงพาพ่อไปธุระที่บ้านนาเดิม กลับออกมาทางซอยสิบ ผ่านแยกบางใหญ่ กำลังทำสะพานข้ามแยก นี่ขนาดสิบโมงกว่าๆ รถยังติดขนาดนี้ ช่วงเช้ากับเย็นจะติดขนาดไหน
กินก๋วยเตี๋ยวกันคนละชาม เข้าไปเลือกศาลพระภูมิที่ร้านแถวบ้าน ตกลงกันไว้คู่ละหกพันห้าร้อย แต่ต้องไปขนเอง บอกเจ้าของร้านไว้ว่าทำพื้น เทฐานเสร็จจะมาเอา
กลับมาถึงบ้าน เอาปลาหางนกยูงขึ้นไปปล่อยในสวนอีกชุด ลองมองๆดูที่บ่อใต้ต้นมังคุดที่เคยขุดลอกเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว น้ำในบ่อนี้ไม่แห้ง เคยเอาปลามาปล่อยไว้เหมือนกัน ปรากฏว่ามีปลาเหลืออยู่หลายตัว ว่ายเป็นฝูงสวยดี แต่ต้องหาเวลามาเก็บกิ่งไม้ ใบไม้ขึ้นซักหน่อยจะสวยกว่านี้
เดินไปเดินมาเริ่มร้อน ลงไปแช่น้ำเล่น น้ำตรงนี้ ลึกประมาณเอว เย็นสบาย มีปลาดุกนา ที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมที่ไม่ผสมดุกรัสเซียอยู่หลายตัว ปกติปลาในสวนจะไม่จับกิน เก็บไว้แพร่พันธุ์อย่างเดียว ยกเว้นปลาช่อน จะกินตัวใหญ่ๆปีนึงไม่เกิน สามตัว ที่เหลือปล่อยกลับคืนไปทั้งหมด
ลงมาตัดหญ้าต่อไปอีกนิดหน่อย บุกเข้าไปในกอสัปรด เจอคราบงูเห่าขนาดเท่าๆด้ามพร้า เลยถอยกลับมาก่อน เผื่อพี่เขายังอยู่ เราให้เวลาพี่เขาย้ายบ้านคืนนึง พรุ่งนี้ค่อยบุกเข้าไปใหม่ วันนี้ได้ต้นมะนาวมาสองต้น ยังหาที่ลงปลูกไม่ได้ แต่พรุ่งนี้จะหาให้ได้ รีบปลูกก่อนที่จะเข้าเดือนสี่ เดือนห้า ติดแล้งเดี๋ยวจะไม่รอด
กลับมากินข้าวอีกรอบ หลับไปงีบนึง ตื่นมาตอนสี่โมงเย็น ออกไปปั่นบอล ฟักไข่ จับโปเกม่อน ออกกำลังกายริมน้ำ เห็นเขาเริ่มซ้อมเรือแข่งกันแล้ว คงจะมีแข่งเรือยาวใกล้ๆแถวนี้ ถ่ายรูปเอาไว้สองสามรูป แต่ยังไม่ได้ลง ยังไม่ได้ฤกษ์เปิดคอมซักที แต่เริ่มถ่ายรูปรอบๆตัวเก็บไว้พอสมควร เดี๋ยวพองานเบาๆลง จะทยอยนำมาลงให้ดูกัน
ช่วงนี้หงุดหงิดกับข่าวพระชั่วๆพอสมควร มีหลายคนบอกว่าอย่าไปว่าพระมากนัก เดี๋ยวจะบาป แต่เราก็จะเฉยไม่ได้ พุทธศาสนาจะคงอยู่ได้ต้องอาศัยพุทธบริษัท 4 อันประกอบด้วย ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ต้องช่วยกัน ในบริษัทนี้เราถือหุ้นอยู่ด้วย อย่าให้พระชั่วๆยึดอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียว
แล้วเวลาพระทำชั่วๆ จะมาห้ามจะไม่ให้ว่าได้ไง ก็พระชั่วๆนี่เลวกว่าหมาเสียอีก เพราะอย่างน้อยเราก็ไม่ต้องยกมือไหว้ ก่อนเอาข้าวให้หมากิน ... จริงๆนะ
บันทึกของเมื่อวาน 19 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 19 กุมภาพันธ์ 2560
เช้านี้อากาศดี ตื่นแปดโมงกว่าๆ แสงแดดอุ่นตากว่าทุกๆวัน นกหลายตัวบินมาอยู่ที่หน้าบ้าน ถ้าเป็นช่วงก่อนผมคงจะหยิบกล้องออกไปถ่ายภาพแล้ว แต่ช่วงนี้ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมจนถึงวันนี้ ผมยังไม่ได้ใช้กล้องถ่ายรูปหรือเปิดคอมเลย ใช้แต่โทรศัพท์ถ่ายภาพ กับเล่นโซเชียลต่างๆ
ตั้งใจไว้ว่าสัปดาห์หน้าจะต้องกลับมาถ่ายภาพ ลงรูปให้ได้ จะพยายามสลัดความเฉื่อยชาในตัวเองออกไปเสียที สภาพร่างกาย จิตใจ ยังปรับตัวไม่ได้หลายอย่าง
กินกาแฟ กินข้าว ลงไปทำงานหลังบ้าน ตัดกิ่งไม้ ตัดหญ้า ตัดแต่งต้นกล้วยข้างบ้าน วันนี้แรงดี ทำงานได้ทั้งวัน ได้งานมากกว่าที่ตั้งใจไว้ เอาบัวเข้าไปปลูกในห้วยหลังบ้าน เมื่อก่อนมีบัวสวยๆอยู่หลายกอ แต่ตอนน้ำหลาก ไม่รู้โดนน้ำพาไปไหนหมดแล้ว
เอาปลาหางนกยูงขึ้นไปปล่อยในวังน้ำด้านบนสุด เพื่อให้ขยายพันธุ์ต่อไป เมื่อสองปีที่แล้วก่อนที่น้ำจะแห้งหมดทั้งสวน ผมเคยปล่อยปลาหางนกยูงกับปลาสอดไว้ในห้วย มันออกลูกออกหลานเต็มไปหมด แถมตัวใหญ่สมบูรณ์กว่าที่อยู่ในอ่างข้างบ้าน
เวลานั่งดูปลาในห้วยจะเห็นเป็นปลาสีสวยๆสลับกับพวกปลาซิว ปลากระดี่ และบางครั้งก็จะเห็น ปลากั้ง หรือปลาช่อน ฮุบมันไปกินต่อหน้าต่อตา
จนเมื่อช่วงนี้ของปีที่แล้วเกิดภาวะแล้งต่อเนื่อง ปลาตายหมดทั้งสวน ที่เป็นตัวใหญ่ก็จับมาเลี้ยงไว้ที่บ้านก่อนจะเอากลับไปปล่อยคืนตอนหน้าน้ำปีนี้
ต้นไม้ตายไปก็เยอะ ที่เหลือรอดก็ต้องซื้อน้ำมารดพอประคองไม่ให้ต้นมันตาย แต่ก็เป็นโอกาสที่ดี ที่ได้ขุดลอกบ่อไว้ ทำให้ปีนี้มีที่เก็บน้ำไว้อยู่พอสมควร
ช่วงเย็น ออกไปซื้อกับข้าวมาเตรียมไว้ เพื่อจะได้อยู่กับบ้านได้ไปอีกซักสองสามวัน โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก มื้อเย็นวันนี้จัดเอาข้าวสวยที่เหลือจากมื้อเช้ามาต้ม กินกับผักกาดดอง ได้ลูกปลาซิวทอดขมิ้นมาจากตลาดหนึ่งถุง กินแล้วมีแรงดี ร่างกายดูเหมือนจะหายเพลีย
มิน่าละ คนจีนสมัยก่อน เวลาที่ทำงานใช้แรงถึงชอบกินข้าวต้ม กินแล้วมีแรงทำงาน พอหมดแรงก็เลยเรียก หมดแรงข้าวต้ม
วันนี้ตั้งแต่เช้าจนเย็น ไม่ได้ออกไปไหน ทำงานทั้งวัน เริ่มจะอยู่ตัว ตั้งใจไว้ว่าจะอยู่บ้านซักสองเดือน หลังสงกรานต์ ทำบุญบ้านเสร็จแล้วค่อยออกเดินทาง ช่วงนี้ใช้ชีวิตเกษตรกรไปก่อน และถ้าเป็นไปได้ จะถือศีลแปดทุกวันพระ นี่เป็นแค่ความคิด ทำได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที
แต่ที่แน่ๆ ผมไม่สูบบุหรี่ซองมาสองวันแล้ว มวนใบจากสูบตราดาว มันลดปริมาณลงได้เยอะจริงๆ จากที่เดี๋ยวจุดๆ ตอนนี้ทั้งวันสูบไม่มาก เพราะขี้เกียจมวนใบจาก
เดี๋ยวซักพัก ถ้าเลิกไม่ได้ค่อยกลับไปสูบกรองทิพย์เหมือนเดิม ... แบบว่า ดีชั่วรู้หมด แต่มันอดไม่ได้จริงๆ
วันนี้ตอนกลับจากตลาดซื้อราดหน้ากับผัดซีอิ้ว มาให้พ่อกับแม่ พ่อนัดว่าพรุ่งนี้ให้พาไปธุระที่บ้านนาเดิมตอนเช้า คืนนี้เลยนอนเร็ว สวดมนต์ย่อๆ พยายามไม่คิดถึงเรื่องวัดธรรมกายกับพระชั่วๆ แล้วหลับยาวจนเช้าเลย
เช้านี้อากาศดี ตื่นแปดโมงกว่าๆ แสงแดดอุ่นตากว่าทุกๆวัน นกหลายตัวบินมาอยู่ที่หน้าบ้าน ถ้าเป็นช่วงก่อนผมคงจะหยิบกล้องออกไปถ่ายภาพแล้ว แต่ช่วงนี้ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมจนถึงวันนี้ ผมยังไม่ได้ใช้กล้องถ่ายรูปหรือเปิดคอมเลย ใช้แต่โทรศัพท์ถ่ายภาพ กับเล่นโซเชียลต่างๆ
ตั้งใจไว้ว่าสัปดาห์หน้าจะต้องกลับมาถ่ายภาพ ลงรูปให้ได้ จะพยายามสลัดความเฉื่อยชาในตัวเองออกไปเสียที สภาพร่างกาย จิตใจ ยังปรับตัวไม่ได้หลายอย่าง
กินกาแฟ กินข้าว ลงไปทำงานหลังบ้าน ตัดกิ่งไม้ ตัดหญ้า ตัดแต่งต้นกล้วยข้างบ้าน วันนี้แรงดี ทำงานได้ทั้งวัน ได้งานมากกว่าที่ตั้งใจไว้ เอาบัวเข้าไปปลูกในห้วยหลังบ้าน เมื่อก่อนมีบัวสวยๆอยู่หลายกอ แต่ตอนน้ำหลาก ไม่รู้โดนน้ำพาไปไหนหมดแล้ว
เอาปลาหางนกยูงขึ้นไปปล่อยในวังน้ำด้านบนสุด เพื่อให้ขยายพันธุ์ต่อไป เมื่อสองปีที่แล้วก่อนที่น้ำจะแห้งหมดทั้งสวน ผมเคยปล่อยปลาหางนกยูงกับปลาสอดไว้ในห้วย มันออกลูกออกหลานเต็มไปหมด แถมตัวใหญ่สมบูรณ์กว่าที่อยู่ในอ่างข้างบ้าน
เวลานั่งดูปลาในห้วยจะเห็นเป็นปลาสีสวยๆสลับกับพวกปลาซิว ปลากระดี่ และบางครั้งก็จะเห็น ปลากั้ง หรือปลาช่อน ฮุบมันไปกินต่อหน้าต่อตา
จนเมื่อช่วงนี้ของปีที่แล้วเกิดภาวะแล้งต่อเนื่อง ปลาตายหมดทั้งสวน ที่เป็นตัวใหญ่ก็จับมาเลี้ยงไว้ที่บ้านก่อนจะเอากลับไปปล่อยคืนตอนหน้าน้ำปีนี้
ต้นไม้ตายไปก็เยอะ ที่เหลือรอดก็ต้องซื้อน้ำมารดพอประคองไม่ให้ต้นมันตาย แต่ก็เป็นโอกาสที่ดี ที่ได้ขุดลอกบ่อไว้ ทำให้ปีนี้มีที่เก็บน้ำไว้อยู่พอสมควร
ช่วงเย็น ออกไปซื้อกับข้าวมาเตรียมไว้ เพื่อจะได้อยู่กับบ้านได้ไปอีกซักสองสามวัน โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก มื้อเย็นวันนี้จัดเอาข้าวสวยที่เหลือจากมื้อเช้ามาต้ม กินกับผักกาดดอง ได้ลูกปลาซิวทอดขมิ้นมาจากตลาดหนึ่งถุง กินแล้วมีแรงดี ร่างกายดูเหมือนจะหายเพลีย
มิน่าละ คนจีนสมัยก่อน เวลาที่ทำงานใช้แรงถึงชอบกินข้าวต้ม กินแล้วมีแรงทำงาน พอหมดแรงก็เลยเรียก หมดแรงข้าวต้ม
วันนี้ตั้งแต่เช้าจนเย็น ไม่ได้ออกไปไหน ทำงานทั้งวัน เริ่มจะอยู่ตัว ตั้งใจไว้ว่าจะอยู่บ้านซักสองเดือน หลังสงกรานต์ ทำบุญบ้านเสร็จแล้วค่อยออกเดินทาง ช่วงนี้ใช้ชีวิตเกษตรกรไปก่อน และถ้าเป็นไปได้ จะถือศีลแปดทุกวันพระ นี่เป็นแค่ความคิด ทำได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที
แต่ที่แน่ๆ ผมไม่สูบบุหรี่ซองมาสองวันแล้ว มวนใบจากสูบตราดาว มันลดปริมาณลงได้เยอะจริงๆ จากที่เดี๋ยวจุดๆ ตอนนี้ทั้งวันสูบไม่มาก เพราะขี้เกียจมวนใบจาก
เดี๋ยวซักพัก ถ้าเลิกไม่ได้ค่อยกลับไปสูบกรองทิพย์เหมือนเดิม ... แบบว่า ดีชั่วรู้หมด แต่มันอดไม่ได้จริงๆ
วันนี้ตอนกลับจากตลาดซื้อราดหน้ากับผัดซีอิ้ว มาให้พ่อกับแม่ พ่อนัดว่าพรุ่งนี้ให้พาไปธุระที่บ้านนาเดิมตอนเช้า คืนนี้เลยนอนเร็ว สวดมนต์ย่อๆ พยายามไม่คิดถึงเรื่องวัดธรรมกายกับพระชั่วๆ แล้วหลับยาวจนเช้าเลย
บันทึกของเมื่อวาน 18 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 18 กุมภาพันธ์ 2560
วันนี้วันเสาร์ ... แล้วไงละ ชีวิตแต่ละวันแทบจะไม่แตกต่างกันเลย บางครั้งลืม จำไม่ได้ว่าวันนี้วันอะไร ตื่นมาช่วงเช้าๆเดินดูนก หลังบ้าน ฟ้าเริ่มใส แดดจ้า หน้าบ้านเริ่มมีนกมามากขึ้น
เจอเหยี่ยวตัวใหญ่ บินอยู่ในสวน เก็บขนมันมาอันนึง นกอย่างอื่นเริ่มมีมากขึ้น ส่งเสียงร้องท้าทาย ให้หยิบกล้องมาถ่ายรูปพวกมัน
ปีนี้แมงปอลายเสือมีมาก มันเป็นบางปีจริงๆ ปีที่แล้วตัวปีกแดงๆจะมาก ปีนี้ลายเสือมาก บางปีจะเป็นไอ้หัวโตๆจะมาก ก็คงจะคล้ายๆกับปลากัดป่าสมัยก่อน บางปีสีแดงจะมาก บางปีสีเขียวจะมาก ธรรมชาติมีอะไรให้เราแปลกใจเสมอ
เก็บหมากได้นิดหน่อย ปลูกมะพร้าวแกงไปอีกแปดต้น มีพื้นที่เหลือแค่นั้น ค่อยๆทำไปทีละนิด แก่แล้ว เรี่ยวแรงไม่ค่อยดี วันนี้พี่สิทธิ์ โทรมาจะเอาต้นพลับพลึงมาให้ แต่ไม่ว่างจะออกไปข้างนอกพอดี เลยฝากไว้ก่อนค่อยเข้าไปเอาพร้อมต้นทุเรียนน้ำของพี่หมู
ตัดหญ้าได้ไม่มาก กิ่งไม้หักตกอยู่เยอะ ต้องเก็บก่อน เลยเหวี่ยงขอบๆไปก่อน พรุ่งนี้จะเข้าไปเก็บก่อนจะตัดให้เสร็จ
ช่วงบ่ายไปสนามกีฬา วันนี้คนเยอะ มีแข่งฟุตบอล คนวุ่นวายเกิน รู้สึกว่ารถแม่ค้าขายของจะมากกว่ารถคนดู กินข้าวไข่เจียวในสนามกีฬาแล้วออกมาริมน้ำตาปี ซื้อผัดไทกลับบ้าน วันนี้ไม่ได้เดินมากมาย รู้สึกว่าคนเยอะเกินไป อึดอัด วุ่นวาย
เพิ่งเห็นว่ามีดนตรีในสวน ในตลาดนัดด้วย มองผ่านๆเห็นพี่อ๊อดตีกลองอยู่ ส่วนนักดนตรีคนอื่นไม่แน่ใจ เพลงดี นักร้องดี นักดนตรีฝีมือดี แต่ซาวด์ไม่ดีเท่าไหร่ เลยตัดสินใจกลับบ้านดีกว่า
กลับถึงบ้าน สวดมนต์ย่อๆ อยู่ๆก็หลับไปเฉยๆ ฝันเป็นเรื่องเป็นราว สะดุ้งตื่น เพิ่งหลับไปชั่วโมงเดียวเอง นานหลายปีแล้วที่ไม่เคยฝัน หลับรวดเดียวจนเช้าทุกคืน
คืนนี้ฝันแปลกๆ ตื่นมายังจำได้อยู่เลย อาจจะเพราะกินมาก นอนมาก เลยคิดมาก ต้องรอดูว่าถ้าฝันเหมือนเดิมอีกซักสี่สิบห้าคืนติดๆกัน ค่อยเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
วันนี้วันเสาร์ ... แล้วไงละ ชีวิตแต่ละวันแทบจะไม่แตกต่างกันเลย บางครั้งลืม จำไม่ได้ว่าวันนี้วันอะไร ตื่นมาช่วงเช้าๆเดินดูนก หลังบ้าน ฟ้าเริ่มใส แดดจ้า หน้าบ้านเริ่มมีนกมามากขึ้น
เจอเหยี่ยวตัวใหญ่ บินอยู่ในสวน เก็บขนมันมาอันนึง นกอย่างอื่นเริ่มมีมากขึ้น ส่งเสียงร้องท้าทาย ให้หยิบกล้องมาถ่ายรูปพวกมัน
ปีนี้แมงปอลายเสือมีมาก มันเป็นบางปีจริงๆ ปีที่แล้วตัวปีกแดงๆจะมาก ปีนี้ลายเสือมาก บางปีจะเป็นไอ้หัวโตๆจะมาก ก็คงจะคล้ายๆกับปลากัดป่าสมัยก่อน บางปีสีแดงจะมาก บางปีสีเขียวจะมาก ธรรมชาติมีอะไรให้เราแปลกใจเสมอ
เก็บหมากได้นิดหน่อย ปลูกมะพร้าวแกงไปอีกแปดต้น มีพื้นที่เหลือแค่นั้น ค่อยๆทำไปทีละนิด แก่แล้ว เรี่ยวแรงไม่ค่อยดี วันนี้พี่สิทธิ์ โทรมาจะเอาต้นพลับพลึงมาให้ แต่ไม่ว่างจะออกไปข้างนอกพอดี เลยฝากไว้ก่อนค่อยเข้าไปเอาพร้อมต้นทุเรียนน้ำของพี่หมู
ตัดหญ้าได้ไม่มาก กิ่งไม้หักตกอยู่เยอะ ต้องเก็บก่อน เลยเหวี่ยงขอบๆไปก่อน พรุ่งนี้จะเข้าไปเก็บก่อนจะตัดให้เสร็จ
ช่วงบ่ายไปสนามกีฬา วันนี้คนเยอะ มีแข่งฟุตบอล คนวุ่นวายเกิน รู้สึกว่ารถแม่ค้าขายของจะมากกว่ารถคนดู กินข้าวไข่เจียวในสนามกีฬาแล้วออกมาริมน้ำตาปี ซื้อผัดไทกลับบ้าน วันนี้ไม่ได้เดินมากมาย รู้สึกว่าคนเยอะเกินไป อึดอัด วุ่นวาย
เพิ่งเห็นว่ามีดนตรีในสวน ในตลาดนัดด้วย มองผ่านๆเห็นพี่อ๊อดตีกลองอยู่ ส่วนนักดนตรีคนอื่นไม่แน่ใจ เพลงดี นักร้องดี นักดนตรีฝีมือดี แต่ซาวด์ไม่ดีเท่าไหร่ เลยตัดสินใจกลับบ้านดีกว่า
กลับถึงบ้าน สวดมนต์ย่อๆ อยู่ๆก็หลับไปเฉยๆ ฝันเป็นเรื่องเป็นราว สะดุ้งตื่น เพิ่งหลับไปชั่วโมงเดียวเอง นานหลายปีแล้วที่ไม่เคยฝัน หลับรวดเดียวจนเช้าทุกคืน
คืนนี้ฝันแปลกๆ ตื่นมายังจำได้อยู่เลย อาจจะเพราะกินมาก นอนมาก เลยคิดมาก ต้องรอดูว่าถ้าฝันเหมือนเดิมอีกซักสี่สิบห้าคืนติดๆกัน ค่อยเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
บันทึกของเมื่อวาน 17 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 17 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นนอนตั้งแต่เช้า แต่ไม่อยากจะออกไปไหน เดินเข้าไปเก็บหมาก ได้มาไม่มากนัก ต้นหมากเก่าๆทยอยกันล้มหายตายจากไป ตัดหญ้าข้างบ้านฝั่งของอาปุกเสร็จ ขึ้นไปเอาต้นหมากลงมาปลูกประมาณ สามสิบต้น
ปีนี้ปลูกหมากใหม่เยอะมาก ต้นเก่าๆทยอยตายไปตั้งแต่ปี 54 น้ำท่วม ล้ม แต่ก็พอจะมีผลผลิตออกมาให้พอได้กิน ปีนี้เจอฝนตกหลายเดือน ต้นที่อาการไม่ดีมาตั้งแต่ปีก่อนๆก็เลยทนไม่ไหว ลาตายกันไปหลายต้น
ออกจากบ้านไปตอนบ่ายสาม จ่ายค่าน้ำ แล้วไปเดินจับโปเกม่อน วันนี้ GEN 2 เปิดให้เล่นวันแรก มึคนเล่นมากมายหลายคน ดูคึกคักกว่าช่วงก่อน ที่เริ่มจะเบื่อๆกันไป เนื่องจากจับตัวของ GEN 1 กันจนครบแล้วนั่นเอง
เดินไป เดินมา จับโปเกม่อน อยู่แถวๆนั้น พอตกเย็นเริ่มหิว เดินไปกินข้าวร้านข้าวแถวๆหน้าอำเภอ กะเพราหมู ไข่ดาว จานละ 60 กับปริมาณที่น้อยมากๆ ... ไอ้สัส กะเอากำไรไปซื้อที่บนดาวอังคารเลยเหรอ
กลับมาเดินจับโปเกม่อน อีกพักใหญ่ จนสามทุ่มครึ่ง ไล่ตียิมมาเรื่อยๆ จนถึงสถานีรถไฟ เราเอาตัวขึ้นยิม ไอ้ฝรั่งที่มารอรถไฟ ตีเราลง แล้วพยายามอัพยิม นั่งในรถรอจนมันเหนื่อย แล้วขับวนกลับไปตีขึ้นยิมอีกรอบ แล้วเก็บเหรียญ กลับบ้าน อีโวเก็บคะแนน ขาดอีกไม่กี่พัน จะขึ้นเลเวล 34 แล้ว
วันนี้ไม่มีอะไรตื่นเต้นไปกว่าการได้จับโปเกม่อน GEN 2 ตื่นเต้นเหมือนตอนเริ่มเล่นใหม่ๆ มีตัวแปลกๆมาให้จับ มีเรื่องราวให้ค้นหาว่า ตัวนี้มีกี่ร่าง ร่างต่อไปเป็นยังไง ทำให้มีชีวิตชีวา กระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้ง
ผมเล่นเกมส์ แต่ก็ไม่เคยว่าใครที่ไม่เล่น ดังนั้นถ้าคุณไม่เล่นก็อย่าไปว่าคนที่เขาเล่นเลย ทุกอย่างบนโลกเคลื่อนที่ได้เพราะความแตกต่าง ไฟฟ้าเคลื่อนที่เพราะความต่างศักย์ น้ำเคลื่อนที่จากความต่างระดับของพื้นผิว
ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ถ้าทำอะไรซ้ำๆ เหมือนๆกันทุกคน แล้วโลกนี้จะมีสีสันได้อย่างไร มันคงจะน่าเบื่อมากๆ ของทุกอย่างมีสองด้านเสมอ
ไม่มีอะไรไร้สาระ ถ้าเราเข้าใจที่ใช้ประโยชน์ สิ่งดีๆของคนนี้ อาจจะเลวร้ายสำหรับอีกคน งูเห่ายังช่วยกินหนูนา พระยังเหี้ยได้เลย ... เนอะ
ตื่นนอนตั้งแต่เช้า แต่ไม่อยากจะออกไปไหน เดินเข้าไปเก็บหมาก ได้มาไม่มากนัก ต้นหมากเก่าๆทยอยกันล้มหายตายจากไป ตัดหญ้าข้างบ้านฝั่งของอาปุกเสร็จ ขึ้นไปเอาต้นหมากลงมาปลูกประมาณ สามสิบต้น
ปีนี้ปลูกหมากใหม่เยอะมาก ต้นเก่าๆทยอยตายไปตั้งแต่ปี 54 น้ำท่วม ล้ม แต่ก็พอจะมีผลผลิตออกมาให้พอได้กิน ปีนี้เจอฝนตกหลายเดือน ต้นที่อาการไม่ดีมาตั้งแต่ปีก่อนๆก็เลยทนไม่ไหว ลาตายกันไปหลายต้น
ออกจากบ้านไปตอนบ่ายสาม จ่ายค่าน้ำ แล้วไปเดินจับโปเกม่อน วันนี้ GEN 2 เปิดให้เล่นวันแรก มึคนเล่นมากมายหลายคน ดูคึกคักกว่าช่วงก่อน ที่เริ่มจะเบื่อๆกันไป เนื่องจากจับตัวของ GEN 1 กันจนครบแล้วนั่นเอง
เดินไป เดินมา จับโปเกม่อน อยู่แถวๆนั้น พอตกเย็นเริ่มหิว เดินไปกินข้าวร้านข้าวแถวๆหน้าอำเภอ กะเพราหมู ไข่ดาว จานละ 60 กับปริมาณที่น้อยมากๆ ... ไอ้สัส กะเอากำไรไปซื้อที่บนดาวอังคารเลยเหรอ
กลับมาเดินจับโปเกม่อน อีกพักใหญ่ จนสามทุ่มครึ่ง ไล่ตียิมมาเรื่อยๆ จนถึงสถานีรถไฟ เราเอาตัวขึ้นยิม ไอ้ฝรั่งที่มารอรถไฟ ตีเราลง แล้วพยายามอัพยิม นั่งในรถรอจนมันเหนื่อย แล้วขับวนกลับไปตีขึ้นยิมอีกรอบ แล้วเก็บเหรียญ กลับบ้าน อีโวเก็บคะแนน ขาดอีกไม่กี่พัน จะขึ้นเลเวล 34 แล้ว
วันนี้ไม่มีอะไรตื่นเต้นไปกว่าการได้จับโปเกม่อน GEN 2 ตื่นเต้นเหมือนตอนเริ่มเล่นใหม่ๆ มีตัวแปลกๆมาให้จับ มีเรื่องราวให้ค้นหาว่า ตัวนี้มีกี่ร่าง ร่างต่อไปเป็นยังไง ทำให้มีชีวิตชีวา กระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้ง
ผมเล่นเกมส์ แต่ก็ไม่เคยว่าใครที่ไม่เล่น ดังนั้นถ้าคุณไม่เล่นก็อย่าไปว่าคนที่เขาเล่นเลย ทุกอย่างบนโลกเคลื่อนที่ได้เพราะความแตกต่าง ไฟฟ้าเคลื่อนที่เพราะความต่างศักย์ น้ำเคลื่อนที่จากความต่างระดับของพื้นผิว
ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ถ้าทำอะไรซ้ำๆ เหมือนๆกันทุกคน แล้วโลกนี้จะมีสีสันได้อย่างไร มันคงจะน่าเบื่อมากๆ ของทุกอย่างมีสองด้านเสมอ
ไม่มีอะไรไร้สาระ ถ้าเราเข้าใจที่ใช้ประโยชน์ สิ่งดีๆของคนนี้ อาจจะเลวร้ายสำหรับอีกคน งูเห่ายังช่วยกินหนูนา พระยังเหี้ยได้เลย ... เนอะ
บันทึกของเมื่อวาน 16 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 16 กุมภาพันธ์ 2560
เมื่อคืนนอนดึกมาก แต่ก็ยังก่อนตีสองสี่สิบห้า ก่อนอาร์เซนอลจะเตะ เช้านี้มีงานเผาศพเลยต้องตื่นเช้า ไม่ได้ดูบอล ตื่นมาเช็คผล ... ดีแล้วที่ไม่ดู แพ้ไป 5:1
ออกไปงานศพที่วัดบางใหญ่ กินข้าวเสร็จ กลับเข้ามาในรถ ว่าจะงีบเอาแรงซักแป๊บ พิธีกรในงาน จับไมค์ได้พูดไม่หยุด พูดทุกเรื่องที่แกอยากพูด แต่ไม่ถามเลยว่า ใครอยากฟังหรือเปล่า
ขับรถหนีออกมาจอดรถนอนรอพระที่วัดบางพลา พอได้เอนหลังนิดหน่อย ที่วัดนี้เงียบดี รอจนเกือบๆเที่ยงเข้าไปรับพระมาสวดมาติกา ที่งานศพวัดบางใหญ่
วันนี้มีเทศนาอีกหนึ่งกัณฑ์ เลยไปกินโล่งโต้ง มื้อเที่ยงเสียก่อน โล่งโต้ง เป็นอาหารที่มีแต่แถวๆนี้ เป็นเส้นหมี่น้ำใสใส่กระดูกหมู ในเมืองสุราษฎร์ธานี มีเจ้าอร่อยอยู่แถวๆตลาดศาลเจ้า คนเข้าคิวกินกันเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีเลยทีเดียว
กินอิ่มแล้วมาฟังพระสวดจนเสร็จ รีบไปส่งพระแล้วกลับมาทันวางดอกไม้จันทน์ อยู่จนนำศพเข้าเตาแล้วกลับบ้าน รู้สึกเพลียๆ หลับไปอีกงีบ ตื่นมาเกือบๆห้าโมงเย็น
ออกไปบ้านป็อก วันนี้วันเกิดเก๋ มีเพื่อนๆมานั่งกิน นั่งคุยกันหลายคน พี่ฝา พี่เก่ง พี่กุง แชมป์ และอีกมากมาย ย่างหมู ไส้กรอก กับหมูกรอบ ก่อนเข้ามาแวะซื้อลาบหมูกับส้มตำ มากินเล่นๆด้วย ... ร้านนี้ไม่อร่อยเท่าไหร่
กินหมูจนอิ่ม แต่ก็ยังอยากกินข้าว เลยให้เชฟป็อกจัดข้าวอบกุนเชียงมาอีกหม้อใหญ่ ตักกันคนละจาน พออิ่มแล้วก็เริ่มขยับตัวกันช้าลงเรื่อยๆ แต่พวกที่ดื่มเหล้าก็ยังเติมกันตลอด ไม่ยอมให้ให้ขาดช่วง
จนสี่ทุ่มก็เป่าเทียน กินเค้ก ปีนี้เห็นมีเทียนสามเล่ม พอให้ได้เป่าเป็นพิธี เพราะถ้าปักเทียนเท่าอายุเจ้าภาพ คาดว่าหน้าเค้กจะมีพื้นที่ไม่พอ 5555
กลับถึงบ้าน โปเกม่อนให้อัพเกรด มีบางอย่างเพิ่มเข้ามา เพราะอีกไม่กี่วันจะเริ่ม Gen 2 ลองเล่นๆปรับเปลี่ยนชุดดู ก็สวยดี
สวดมนต์ย่อๆ นอนพักผ่อน แต่ไม่ยอมหลับ คงเป็นเพราะวันนี้นอนกลางวัน แต่ไม่มีปัญหา ตั้งใจไว้แล้วว่าพรุ่งนี้จะตื่นซักแปดโมง หรือสายกว่านั้น งานมีไม่มาก จะตัดหญ้าต่อให้เสร็จ พื้นที่ตรงนี้วางแนวปลูกหมากเอาไว้ น่าจะได้อีกซัก ห้าสิบต้น ว่าจะปลูกให้เสร็จพรุ่งนี้เลย
เมื่อคืนนอนดึกมาก แต่ก็ยังก่อนตีสองสี่สิบห้า ก่อนอาร์เซนอลจะเตะ เช้านี้มีงานเผาศพเลยต้องตื่นเช้า ไม่ได้ดูบอล ตื่นมาเช็คผล ... ดีแล้วที่ไม่ดู แพ้ไป 5:1
ออกไปงานศพที่วัดบางใหญ่ กินข้าวเสร็จ กลับเข้ามาในรถ ว่าจะงีบเอาแรงซักแป๊บ พิธีกรในงาน จับไมค์ได้พูดไม่หยุด พูดทุกเรื่องที่แกอยากพูด แต่ไม่ถามเลยว่า ใครอยากฟังหรือเปล่า
ขับรถหนีออกมาจอดรถนอนรอพระที่วัดบางพลา พอได้เอนหลังนิดหน่อย ที่วัดนี้เงียบดี รอจนเกือบๆเที่ยงเข้าไปรับพระมาสวดมาติกา ที่งานศพวัดบางใหญ่
วันนี้มีเทศนาอีกหนึ่งกัณฑ์ เลยไปกินโล่งโต้ง มื้อเที่ยงเสียก่อน โล่งโต้ง เป็นอาหารที่มีแต่แถวๆนี้ เป็นเส้นหมี่น้ำใสใส่กระดูกหมู ในเมืองสุราษฎร์ธานี มีเจ้าอร่อยอยู่แถวๆตลาดศาลเจ้า คนเข้าคิวกินกันเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีเลยทีเดียว
กินอิ่มแล้วมาฟังพระสวดจนเสร็จ รีบไปส่งพระแล้วกลับมาทันวางดอกไม้จันทน์ อยู่จนนำศพเข้าเตาแล้วกลับบ้าน รู้สึกเพลียๆ หลับไปอีกงีบ ตื่นมาเกือบๆห้าโมงเย็น
ออกไปบ้านป็อก วันนี้วันเกิดเก๋ มีเพื่อนๆมานั่งกิน นั่งคุยกันหลายคน พี่ฝา พี่เก่ง พี่กุง แชมป์ และอีกมากมาย ย่างหมู ไส้กรอก กับหมูกรอบ ก่อนเข้ามาแวะซื้อลาบหมูกับส้มตำ มากินเล่นๆด้วย ... ร้านนี้ไม่อร่อยเท่าไหร่
กินหมูจนอิ่ม แต่ก็ยังอยากกินข้าว เลยให้เชฟป็อกจัดข้าวอบกุนเชียงมาอีกหม้อใหญ่ ตักกันคนละจาน พออิ่มแล้วก็เริ่มขยับตัวกันช้าลงเรื่อยๆ แต่พวกที่ดื่มเหล้าก็ยังเติมกันตลอด ไม่ยอมให้ให้ขาดช่วง
จนสี่ทุ่มก็เป่าเทียน กินเค้ก ปีนี้เห็นมีเทียนสามเล่ม พอให้ได้เป่าเป็นพิธี เพราะถ้าปักเทียนเท่าอายุเจ้าภาพ คาดว่าหน้าเค้กจะมีพื้นที่ไม่พอ 5555
กลับถึงบ้าน โปเกม่อนให้อัพเกรด มีบางอย่างเพิ่มเข้ามา เพราะอีกไม่กี่วันจะเริ่ม Gen 2 ลองเล่นๆปรับเปลี่ยนชุดดู ก็สวยดี
สวดมนต์ย่อๆ นอนพักผ่อน แต่ไม่ยอมหลับ คงเป็นเพราะวันนี้นอนกลางวัน แต่ไม่มีปัญหา ตั้งใจไว้แล้วว่าพรุ่งนี้จะตื่นซักแปดโมง หรือสายกว่านั้น งานมีไม่มาก จะตัดหญ้าต่อให้เสร็จ พื้นที่ตรงนี้วางแนวปลูกหมากเอาไว้ น่าจะได้อีกซัก ห้าสิบต้น ว่าจะปลูกให้เสร็จพรุ่งนี้เลย
บันทึกของเมื่อวาน 15 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 15 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นสายๆ สบายๆ ช่วงนี้ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบอีกแล้ว งานเคลียร์ไปหมดแล้ว วันนี้แม่ทำขนมจีน แกงเขียวหวานไก่ จัดไปจานใหญ่ ตามด้วยปาท่องโก๋ กาแฟ แล้วนอนเล่นอีกรอบ
ตอนนี้เริ่มจะแยกไม่ออกแล้วว่า เป็นเพราะอ่อนเพลียจากการเดินทางติดต่อกันหลายวันหรือเป็นเพราะขี้เกียจกันแน่
เดินออกไป ให้อาหารปลา ดูฟ้าหน้าบ้าน วันนี้ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก แต่ไม่ตก อากาศไม่ร้อนมาก ออกไปตัดหญ้าหลังบ้านตอนเกือบเที่ยง ตัดไปจนเกือบจะเสร็จ ดับเครื่องนั่งพัก
วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะตัดตรงนี้ต่อให้เสร็จ แต่พอจะติดเครื่องอีกรอบ สายชักสตาร์ท ดึงกลับไม่ได้ สตาร์ทเครื่องไม่ได้ พยายามจะถอดออกมาแก้ แต่ก็ถอดไม่ได้อีกเช่นกัน เลยต้องหยุดก่อน ... จริงๆแล้วก็เข้าทางเลย กำลังขี้เกียจพอดี
ต้นไม้ที่ปลูกไว้ตรงนี้ปลูกไว้เมื่อสามปีที่แล้ว ตอนนี้งามดีมาก ประดู่ต้นเท่าขา สูงราวๆสี่ ห้าเมตร ต้นพยอม รอดหลายต้นสูงกว่าสองเมตร มะขามป้อม มะม่วงป่ากับมะปริง ตั้งพุ่มสูงประมาณเมตรกว่า ต้นไม้เหล่านี้รอดจากหน้าแล้งปีที่แล้วมาได้อย่างสวยงาม
ต้นหว้า กับตะเคียน ที่ถอนมาปลูกเมื่อปีที่แล้วจากสวนยางที่บ้านนาเดิม รอดหลายต้น ต้นทัง ต้นเพกา ก็อยู่ปกติดี อีกไม่กี่ปี ที่ตรงนี้คงจะเป็นป่าอย่างที่ตั้งใจไว้
เอาเครื่องตัดหญ้าไปซ่อมที่ร้านประจำ เข้าไปซอยจีรพันธ์ ซื้ออาหารแมวกับอาหารปลา รถติดมาก ต่างคนต่างไม่ยอมกัน แม่ค้าจอดรถลงของ รถส่งของจอดกลางถนน มีบีบแตร ไล่กันด้วย แต่ก็ขยับๆกันไปจนได้ ... คิดว่าจะได้ดูมวยกลางถนนเสียแล้ว
ซื้อของเสร็จไปวัดท่าโรงช้าง เอาหนังสือวิสุทธิมรรคไปให้หลวงแดง เพื่อใช้ประกอบการเรียน ปริญญาเอก รีบกลับออกมาเอาเครื่องตัดหญ้าก่อนที่ร้านจะปิด สปริงดึงสายขาด เสียค่าซ่อมไปห้าสิบบาท เสร็จแล้วรีบกลับเข้าบ้าน เตรียมตัวออกไปงานศพ
ไปงานศพวันนี้เอารถแม่ไป พี่บีมาด้วย พี่บีให้ขับไปทางที่จำทางได้ง่ายๆ เพราะพรุ่งนี้พี่บีจะขับรถมาเอง เผาศพเสร็จแล้วจะกลับหาดใหญ่เลย ไม่ย้อนกลับมาที่บ้าน
มาถึงวัดคุยกับอาจารย์เจ๊ก เรื่องพระเก่าของไชยา ที่เรียกกันว่าพ่อตาเชี่ยว ที่เคยโพสต์เล่าให้ฟังไปก่อนหน้านี้ วันนี้อาจารย์เจ๊กประสานไปทางผู้ใหญ่ ให้ช่วยติดตามขอคืนกลับมาไว้ที่ไชยา ส่วนจะได้คืนมาหรือเปล่าต้องรอดูผลกันอีกที
หนึ่งทุ่มตรงเอารถพี่อ้วนออกไปทำหน้าที่รับ ส่งพระจากวัดบางพลา เฮียเก่งกับแชมป์มาฟังสวดด้วย นั่งกินข้าวด้วยกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
กลับถึงบ้านกินกาแฟอีกแก้ว คราวนี้นอนไม่หลับ จะรอดูบอลก็ดึกเกิน พรุ่งนี้นัดอาปุกไว้ เก้าโมง ออกจากบ้านไปเผาศพที่วัดบางใหญ่ ต้องไปรับพระจากวัดบางพลา มาสวดมาติกาด้วย
ตัดสินใจ สวดมนต์ ข่มตานอน ภาวนาให้อาร์เซนอล ยันเสมอบาเยิร์น มิวนิคให้ได้ ส่วนผลจะเป็นยังไงค่อยมาดูตอนเช้า
เราไม่ดูเขาก็เตะ เพราะฉะนั้น นอนดีกว่า
ตื่นสายๆ สบายๆ ช่วงนี้ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบอีกแล้ว งานเคลียร์ไปหมดแล้ว วันนี้แม่ทำขนมจีน แกงเขียวหวานไก่ จัดไปจานใหญ่ ตามด้วยปาท่องโก๋ กาแฟ แล้วนอนเล่นอีกรอบ
ตอนนี้เริ่มจะแยกไม่ออกแล้วว่า เป็นเพราะอ่อนเพลียจากการเดินทางติดต่อกันหลายวันหรือเป็นเพราะขี้เกียจกันแน่
เดินออกไป ให้อาหารปลา ดูฟ้าหน้าบ้าน วันนี้ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก แต่ไม่ตก อากาศไม่ร้อนมาก ออกไปตัดหญ้าหลังบ้านตอนเกือบเที่ยง ตัดไปจนเกือบจะเสร็จ ดับเครื่องนั่งพัก
วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะตัดตรงนี้ต่อให้เสร็จ แต่พอจะติดเครื่องอีกรอบ สายชักสตาร์ท ดึงกลับไม่ได้ สตาร์ทเครื่องไม่ได้ พยายามจะถอดออกมาแก้ แต่ก็ถอดไม่ได้อีกเช่นกัน เลยต้องหยุดก่อน ... จริงๆแล้วก็เข้าทางเลย กำลังขี้เกียจพอดี
ต้นไม้ที่ปลูกไว้ตรงนี้ปลูกไว้เมื่อสามปีที่แล้ว ตอนนี้งามดีมาก ประดู่ต้นเท่าขา สูงราวๆสี่ ห้าเมตร ต้นพยอม รอดหลายต้นสูงกว่าสองเมตร มะขามป้อม มะม่วงป่ากับมะปริง ตั้งพุ่มสูงประมาณเมตรกว่า ต้นไม้เหล่านี้รอดจากหน้าแล้งปีที่แล้วมาได้อย่างสวยงาม
ต้นหว้า กับตะเคียน ที่ถอนมาปลูกเมื่อปีที่แล้วจากสวนยางที่บ้านนาเดิม รอดหลายต้น ต้นทัง ต้นเพกา ก็อยู่ปกติดี อีกไม่กี่ปี ที่ตรงนี้คงจะเป็นป่าอย่างที่ตั้งใจไว้
เอาเครื่องตัดหญ้าไปซ่อมที่ร้านประจำ เข้าไปซอยจีรพันธ์ ซื้ออาหารแมวกับอาหารปลา รถติดมาก ต่างคนต่างไม่ยอมกัน แม่ค้าจอดรถลงของ รถส่งของจอดกลางถนน มีบีบแตร ไล่กันด้วย แต่ก็ขยับๆกันไปจนได้ ... คิดว่าจะได้ดูมวยกลางถนนเสียแล้ว
ซื้อของเสร็จไปวัดท่าโรงช้าง เอาหนังสือวิสุทธิมรรคไปให้หลวงแดง เพื่อใช้ประกอบการเรียน ปริญญาเอก รีบกลับออกมาเอาเครื่องตัดหญ้าก่อนที่ร้านจะปิด สปริงดึงสายขาด เสียค่าซ่อมไปห้าสิบบาท เสร็จแล้วรีบกลับเข้าบ้าน เตรียมตัวออกไปงานศพ
ไปงานศพวันนี้เอารถแม่ไป พี่บีมาด้วย พี่บีให้ขับไปทางที่จำทางได้ง่ายๆ เพราะพรุ่งนี้พี่บีจะขับรถมาเอง เผาศพเสร็จแล้วจะกลับหาดใหญ่เลย ไม่ย้อนกลับมาที่บ้าน
มาถึงวัดคุยกับอาจารย์เจ๊ก เรื่องพระเก่าของไชยา ที่เรียกกันว่าพ่อตาเชี่ยว ที่เคยโพสต์เล่าให้ฟังไปก่อนหน้านี้ วันนี้อาจารย์เจ๊กประสานไปทางผู้ใหญ่ ให้ช่วยติดตามขอคืนกลับมาไว้ที่ไชยา ส่วนจะได้คืนมาหรือเปล่าต้องรอดูผลกันอีกที
หนึ่งทุ่มตรงเอารถพี่อ้วนออกไปทำหน้าที่รับ ส่งพระจากวัดบางพลา เฮียเก่งกับแชมป์มาฟังสวดด้วย นั่งกินข้าวด้วยกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
กลับถึงบ้านกินกาแฟอีกแก้ว คราวนี้นอนไม่หลับ จะรอดูบอลก็ดึกเกิน พรุ่งนี้นัดอาปุกไว้ เก้าโมง ออกจากบ้านไปเผาศพที่วัดบางใหญ่ ต้องไปรับพระจากวัดบางพลา มาสวดมาติกาด้วย
ตัดสินใจ สวดมนต์ ข่มตานอน ภาวนาให้อาร์เซนอล ยันเสมอบาเยิร์น มิวนิคให้ได้ ส่วนผลจะเป็นยังไงค่อยมาดูตอนเช้า
เราไม่ดูเขาก็เตะ เพราะฉะนั้น นอนดีกว่า
บันทึกของเมื่อวาน 14 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 14 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นมาในเช้าวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักของคนทั่วไป มีหลายคนโพสต์บอกว่าเป็นวันของต่างชาติไม่ใช่ของไทย จะอะไรกันนักหนา
แหม่ ... อะไรที่มันดีๆก็รับๆไปบ้างเถอะ ทีวันขึ้นปีใหม่สากล ยังเมากันได้เลย โลกที่มีความรัก เป็นโลกที่น่าอยู่ ดีกว่าเกลียดกันตั้งเยอะ
วันนี้ก็เหมือนทุกวัน เข้าสวนไปเก็บหมากที่หล่น มาตากแดดไว้ก่อน รอเวลาผ่าทำหมากแห้ง แปดโมงครึ่งออกจากบ้านไปพังงา รับหลวงเปี๊ยกกับทีมงานจากวัดเก่าเจริญธรรมมาขึ้นเครื่องที่สุราษฎร์ธานี แวะฉันเพลที่แยกนาเหนือ ส่งที่สนามบินเสร็จแล้วรีบกลับเข้าบ้าน
เอาเครื่องตัดหญ้าไปเปลี่ยนใบกับฝาครอบ ซื้อน้ำมันเตรียมไว้ลุยงานสวนยาวๆไป ช่วงนี้ต้องรีบทำให้เสร็จก่อนเข้าหน้าแล้ง ไม่ใช่ว่าจะมีผลอะไรกับต้นไม้หรอก แต่เป็นเพราะพอเข้าหน้าแล้งแล้ว อากาศจะร้อนมาก คนจะขี้เกียจเสียก่อน
วันนี้มีโทรศัพท์เข้ามา ขายประกัน และอะไรอีกมากมาย รู้สึกว่าน่ารำคาญมาก ช่วงเย็นซื้อก๋วยเตี๋ยวมากินก่อนออกไปงานศพป้าแดง ทำหน้าที่รับ ส่งพระที่มาสวดพระอภิธรรม เสร็จจากงานศพ กลับเข้าเมืองไปจับโปเกม่อน ตียิม เก็บเลเวลเพิ่มอีกนิดหน่อย ก่อนเข้าบ้าน
วันนี้โล่งใจไปหลายเรื่อง งานเสร็จไปหลายอย่าง ไม่มีภาระกิจอะไรค้างคาใจ เหลือแค่งานดูแลสวนที่บ้าน ที่สามารถทำได้เรื่อยๆ คงจะมีเวลาไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกสวยๆได้บ้าง เล็งมุมไว้สอง สามที่ คงจะได้ภาพอบ่างที่ตั้งใจไว้มาให้ชมกัน
พรุ่งนี้คาดว่าจะได้ฤกษ์เปิดคอมเสียที หลังจากไม่ได้เปิดมาเป็นสัปดาห์แล้ว ชีวิตวุ่นวาย วกวน มาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม หลังจากนี้คงจะมีเวลามากขึ้น ปล่อยวางทิ้งไปหลายเรื่อง คงจะพอเหลือที่ว่างให้กับความสุขส่วนตัว
หลังจากนี้คงจะได้เริ่มเก็บภาพนกหลังบ้านไว้บ้าง ช่วงนี้เริ่มมีนกมาให้เห็นมากขึ้น มีตัวสวยๆอยู่หลายตัว แต่ปีนี้ยังไม่เห็นนกโพระดก ปีที่แล้วเจออยู่หลายตัว
คืนนี้นอนดึกนิดหน่อย ไม่ต้องรีบตื่น ไม่มีอะไรเร่งรีบ พรุ่งนี้จะทำอะไรค่อยว่ากันอีกที
ตื่นมาในเช้าวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักของคนทั่วไป มีหลายคนโพสต์บอกว่าเป็นวันของต่างชาติไม่ใช่ของไทย จะอะไรกันนักหนา
แหม่ ... อะไรที่มันดีๆก็รับๆไปบ้างเถอะ ทีวันขึ้นปีใหม่สากล ยังเมากันได้เลย โลกที่มีความรัก เป็นโลกที่น่าอยู่ ดีกว่าเกลียดกันตั้งเยอะ
วันนี้ก็เหมือนทุกวัน เข้าสวนไปเก็บหมากที่หล่น มาตากแดดไว้ก่อน รอเวลาผ่าทำหมากแห้ง แปดโมงครึ่งออกจากบ้านไปพังงา รับหลวงเปี๊ยกกับทีมงานจากวัดเก่าเจริญธรรมมาขึ้นเครื่องที่สุราษฎร์ธานี แวะฉันเพลที่แยกนาเหนือ ส่งที่สนามบินเสร็จแล้วรีบกลับเข้าบ้าน
เอาเครื่องตัดหญ้าไปเปลี่ยนใบกับฝาครอบ ซื้อน้ำมันเตรียมไว้ลุยงานสวนยาวๆไป ช่วงนี้ต้องรีบทำให้เสร็จก่อนเข้าหน้าแล้ง ไม่ใช่ว่าจะมีผลอะไรกับต้นไม้หรอก แต่เป็นเพราะพอเข้าหน้าแล้งแล้ว อากาศจะร้อนมาก คนจะขี้เกียจเสียก่อน
วันนี้มีโทรศัพท์เข้ามา ขายประกัน และอะไรอีกมากมาย รู้สึกว่าน่ารำคาญมาก ช่วงเย็นซื้อก๋วยเตี๋ยวมากินก่อนออกไปงานศพป้าแดง ทำหน้าที่รับ ส่งพระที่มาสวดพระอภิธรรม เสร็จจากงานศพ กลับเข้าเมืองไปจับโปเกม่อน ตียิม เก็บเลเวลเพิ่มอีกนิดหน่อย ก่อนเข้าบ้าน
วันนี้โล่งใจไปหลายเรื่อง งานเสร็จไปหลายอย่าง ไม่มีภาระกิจอะไรค้างคาใจ เหลือแค่งานดูแลสวนที่บ้าน ที่สามารถทำได้เรื่อยๆ คงจะมีเวลาไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกสวยๆได้บ้าง เล็งมุมไว้สอง สามที่ คงจะได้ภาพอบ่างที่ตั้งใจไว้มาให้ชมกัน
พรุ่งนี้คาดว่าจะได้ฤกษ์เปิดคอมเสียที หลังจากไม่ได้เปิดมาเป็นสัปดาห์แล้ว ชีวิตวุ่นวาย วกวน มาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม หลังจากนี้คงจะมีเวลามากขึ้น ปล่อยวางทิ้งไปหลายเรื่อง คงจะพอเหลือที่ว่างให้กับความสุขส่วนตัว
หลังจากนี้คงจะได้เริ่มเก็บภาพนกหลังบ้านไว้บ้าง ช่วงนี้เริ่มมีนกมาให้เห็นมากขึ้น มีตัวสวยๆอยู่หลายตัว แต่ปีนี้ยังไม่เห็นนกโพระดก ปีที่แล้วเจออยู่หลายตัว
คืนนี้นอนดึกนิดหน่อย ไม่ต้องรีบตื่น ไม่มีอะไรเร่งรีบ พรุ่งนี้จะทำอะไรค่อยว่ากันอีกที
บันทึกของเมื่อวาน 13 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 13 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นเช้าแบบไม่รู้ตัวว่านอนมานานแค่ไหน สองคืนที่ผ่านมาหลับแบบรวดเดียวถึงเช้า ไม่มีการตื่นตอนดึก หรือรู้สึกตัวใดๆ บางครั้งก็สงสัยนะ ว่าเวลาเราตายมันเป็นแบบนี้หรือเปล่า คงจะวูบหายไปเลยเหมือนตอนเราหลับ ต่างกันแค่มันไม่ตื่นมาอีก หรือว่าอาจจะไปตื่นที่อื่น แต่ก็ไม่ยังไม่แน่ใจนัก เพราะยังไม่เคยตายจริงๆเสียที
ป้าอี๊ด ทมยันตี บอกว่า การนอนคือการซ้อมตาย
ออกจากบ้านแปดโมงครึ่ง ไปเอากุญแจที่บ้านเอก วันนี้วันหยุด หลายๆคนหยุดงาน แต่ผมว่างแค่วันนี้วันเดียว เลยต้องออกไปทำงาน รับงานมาแล้วต้องทำให้เสร็จ
มีงานฝากที่ปากน้ำหลังสวนอีกที่นึง แต่ไม่มีปัญหา ทางผ่านอยู่แล้ว อาชีพเก่า ไม่ได้ยากมากนัก
เดินทางไปหลังสวนทางตลาดละแม อยากเข้าไปดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง เปลี่ยนแปลงไปมากหรือเปล่า ไม่ได้เข้ามาห้าปีแล้ว ชอบหอนาฬิกาที่สถานีรถไฟ สีสันสดใสดี
ตลาดละแมดูรวมๆแล้วเหมือนเดิม เมืองสงบๆ ไม่วุ่นวาย ถนนไม่กว้างมากนัก มีเซเว่นกับโลตัส เปิดแข่งกันเหมือนกับหลายๆอำเภอในตอนนี้ สะพานข้ามแม่น้ำละแม คอสะพานชำรุดตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม ยังใช้สะพานชั่วคราวอยู่ ดูสภาพแล้วตอนน้ำมาคงจะหนักน่าดูเลย
ในทะเลข้างทางจาก ปากน้ำหลังสวน แหลมริ่ว เกาะพิทักษ์ ปากตะโก คลื่นลมแรง มองไปในทะเลมีแต่คลื่น เป็นฟองสีขาวๆ เต็มทะเล ฟ้ามืด อากาศไม่เหมาะกับการลงไปเดินริมทะเล เลยไม่ได้ถ่ายภาพมา
ช่วงนี้แถวๆหลังสวน เริ่มเปิดรับซื้อทุเรียนกันมากขึ้น เริ่มมีรถขนทุเรียนวิ่งกันมากขึ้น ผลผลิตทางการเกษตร ทำรายได้ให้คนแถวนี้เป็นกอบเป็นกำ ตลาดรับซื้อผลไม้ เปิดใหม่ใหญ่โต แผงรับซื้อทุเรียน มังคุด มีอยู่มากจนนับไม่ไหวว่ามีกี่แผง
เสร็จงาน สามที่สุดท้ายของจังหวัดชุมพร เดินทางกลับสุราษฎร์ธานี เอากุญแจไปคืนที่บ้านเอก กลับบ้านมารับอาปุกไปงานศพป้าแดง ทำหน้าที่รับ ส่งพระจากวัดบางพลา ที่มาร่วมสวดพระอภิธรรม วันนี้เจออาเอก รินทอง เจอกำนันเล็ก ที่งานศพด้วย
กำนันเล็กบอกว่า มึงไว้หนวดซะแก่กว่ากูแล้วนะ ... พรุ่งนี้จะโกนหนวดให้แววไปเลย
เสร็จงานเก็บเก้าอี้ กลับบ้าน ออกมาทางวัดมะปริง ถึงบ้านสามทุ่มกว่าๆ สภาพร่างกายเหมือนในการ์ตูนที่เคยอ่านตอนเด็ก ตอนที่ตัวดักแด้กำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ ปวดเมื่อยไปทั้งตัว อาการเบื้องต้นที่ร่างกายเตือนว่า ต้องการพักผ่อน
อยากจะนอนยาวๆซักสองวันสองคืน แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ยังมีงานอีกสอง สามวัน หมดงานชุดนี้ ก็จะเป็นงานในสวน ซึ่งเป็นงานที่ไม่มีวันหมด ทำได้ทุกวัน แต่ก็จะไม่หนักมากเหมือนช่วงนี้
ตื่นเช้าแบบไม่รู้ตัวว่านอนมานานแค่ไหน สองคืนที่ผ่านมาหลับแบบรวดเดียวถึงเช้า ไม่มีการตื่นตอนดึก หรือรู้สึกตัวใดๆ บางครั้งก็สงสัยนะ ว่าเวลาเราตายมันเป็นแบบนี้หรือเปล่า คงจะวูบหายไปเลยเหมือนตอนเราหลับ ต่างกันแค่มันไม่ตื่นมาอีก หรือว่าอาจจะไปตื่นที่อื่น แต่ก็ไม่ยังไม่แน่ใจนัก เพราะยังไม่เคยตายจริงๆเสียที
ป้าอี๊ด ทมยันตี บอกว่า การนอนคือการซ้อมตาย
ออกจากบ้านแปดโมงครึ่ง ไปเอากุญแจที่บ้านเอก วันนี้วันหยุด หลายๆคนหยุดงาน แต่ผมว่างแค่วันนี้วันเดียว เลยต้องออกไปทำงาน รับงานมาแล้วต้องทำให้เสร็จ
มีงานฝากที่ปากน้ำหลังสวนอีกที่นึง แต่ไม่มีปัญหา ทางผ่านอยู่แล้ว อาชีพเก่า ไม่ได้ยากมากนัก
เดินทางไปหลังสวนทางตลาดละแม อยากเข้าไปดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง เปลี่ยนแปลงไปมากหรือเปล่า ไม่ได้เข้ามาห้าปีแล้ว ชอบหอนาฬิกาที่สถานีรถไฟ สีสันสดใสดี
ตลาดละแมดูรวมๆแล้วเหมือนเดิม เมืองสงบๆ ไม่วุ่นวาย ถนนไม่กว้างมากนัก มีเซเว่นกับโลตัส เปิดแข่งกันเหมือนกับหลายๆอำเภอในตอนนี้ สะพานข้ามแม่น้ำละแม คอสะพานชำรุดตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม ยังใช้สะพานชั่วคราวอยู่ ดูสภาพแล้วตอนน้ำมาคงจะหนักน่าดูเลย
ในทะเลข้างทางจาก ปากน้ำหลังสวน แหลมริ่ว เกาะพิทักษ์ ปากตะโก คลื่นลมแรง มองไปในทะเลมีแต่คลื่น เป็นฟองสีขาวๆ เต็มทะเล ฟ้ามืด อากาศไม่เหมาะกับการลงไปเดินริมทะเล เลยไม่ได้ถ่ายภาพมา
ช่วงนี้แถวๆหลังสวน เริ่มเปิดรับซื้อทุเรียนกันมากขึ้น เริ่มมีรถขนทุเรียนวิ่งกันมากขึ้น ผลผลิตทางการเกษตร ทำรายได้ให้คนแถวนี้เป็นกอบเป็นกำ ตลาดรับซื้อผลไม้ เปิดใหม่ใหญ่โต แผงรับซื้อทุเรียน มังคุด มีอยู่มากจนนับไม่ไหวว่ามีกี่แผง
เสร็จงาน สามที่สุดท้ายของจังหวัดชุมพร เดินทางกลับสุราษฎร์ธานี เอากุญแจไปคืนที่บ้านเอก กลับบ้านมารับอาปุกไปงานศพป้าแดง ทำหน้าที่รับ ส่งพระจากวัดบางพลา ที่มาร่วมสวดพระอภิธรรม วันนี้เจออาเอก รินทอง เจอกำนันเล็ก ที่งานศพด้วย
กำนันเล็กบอกว่า มึงไว้หนวดซะแก่กว่ากูแล้วนะ ... พรุ่งนี้จะโกนหนวดให้แววไปเลย
เสร็จงานเก็บเก้าอี้ กลับบ้าน ออกมาทางวัดมะปริง ถึงบ้านสามทุ่มกว่าๆ สภาพร่างกายเหมือนในการ์ตูนที่เคยอ่านตอนเด็ก ตอนที่ตัวดักแด้กำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ ปวดเมื่อยไปทั้งตัว อาการเบื้องต้นที่ร่างกายเตือนว่า ต้องการพักผ่อน
อยากจะนอนยาวๆซักสองวันสองคืน แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ยังมีงานอีกสอง สามวัน หมดงานชุดนี้ ก็จะเป็นงานในสวน ซึ่งเป็นงานที่ไม่มีวันหมด ทำได้ทุกวัน แต่ก็จะไม่หนักมากเหมือนช่วงนี้
บันทึกของเมื่อวาน 12 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 12 กุมภาพันธ์ 2560
ตื่นมารีบไปบ้านพ่อก่อนเลย วันนี้วันเกิดพ่อ อวยพรวันเกิด นั่งคุยกันแป๊บนึง ก่อนกลับมาเข้าสวน
น้ำไหลข้ามฝายที่ผมมาทำไว้วันก่อน เดินดูด้านบนขึ้นไปพยายามมองดูปลาในห้วย ปลากั้งตัวใหญ่ๆมีอยู่หลายตัว จนสุดท้ายได้เห็นปลาซิว สอง สามตัว ว่ายน้ำอยู่ ... ดีใจยิ่งกว่าถูกหวย
ปลาซิวเกิดลูกไว อีกไม่นานคงจะมีปลาเต็มห้วยอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วน้ำแห้งจนปลาตายไม่มีเหลือเลย ปีนี้ก็มีปลาน้อยมาก นอกจากในบ่อที่ผมจับไปเลี้ยงไว้ ก่อนจะเอามาปล่อยกลับไปให้มันขยายพันธุ์กันต่อไป
เก็บหมากลงมาได้อีกนิดหน่อย หมากเริ่มสุก แต่ปีนี้มีไม่มากจริงๆ ลงมาปลูกต้นไม้อีก สาม สี่ต้น เพาะไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นพวกไม้พื้นเมือง มะม่วงป่า มะมุด ขนุน น้อยโหน่ง
เสร็จงานไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านเพื่อนยิ้ว ตัดสินใจพลาดขับรถออกไปทางแยกบางใหญ่ รถติดวินาศ เขากำลังทำสะพานข้ามแยกกันอยู่ กินเสร็จออกไปตลาดน้ำบ้านดอน หาขนมกิน จับโปเกม่อน แล้วข้ามสะพานออกไปทางบางใบไม้ ไปงานศพป้าแดงที่วัดบางใหญ่ ฝั่งลีเล็ด เจอด่านตรวจ แต่ก็ไม่มีอะไรผิด ผ่านไปจนถึงวัดบางใหญ่
นั่งคุยกันกับพี่อ้วน รอญาติๆมาจากหลายๆที่ วันนี้ทางญาติฝั่งพ่อเป็นเจ้าภาพ เจอยุวดีมากับพ่อ นั่งฟังพระสวด คุยกันนิดหน่อย แยกย้ายกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้เหลืองานค้างอีกนิดหน่อย จะรีบทำให้เสร็จ
ตื่นมารีบไปบ้านพ่อก่อนเลย วันนี้วันเกิดพ่อ อวยพรวันเกิด นั่งคุยกันแป๊บนึง ก่อนกลับมาเข้าสวน
น้ำไหลข้ามฝายที่ผมมาทำไว้วันก่อน เดินดูด้านบนขึ้นไปพยายามมองดูปลาในห้วย ปลากั้งตัวใหญ่ๆมีอยู่หลายตัว จนสุดท้ายได้เห็นปลาซิว สอง สามตัว ว่ายน้ำอยู่ ... ดีใจยิ่งกว่าถูกหวย
ปลาซิวเกิดลูกไว อีกไม่นานคงจะมีปลาเต็มห้วยอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วน้ำแห้งจนปลาตายไม่มีเหลือเลย ปีนี้ก็มีปลาน้อยมาก นอกจากในบ่อที่ผมจับไปเลี้ยงไว้ ก่อนจะเอามาปล่อยกลับไปให้มันขยายพันธุ์กันต่อไป
เก็บหมากลงมาได้อีกนิดหน่อย หมากเริ่มสุก แต่ปีนี้มีไม่มากจริงๆ ลงมาปลูกต้นไม้อีก สาม สี่ต้น เพาะไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นพวกไม้พื้นเมือง มะม่วงป่า มะมุด ขนุน น้อยโหน่ง
เสร็จงานไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านเพื่อนยิ้ว ตัดสินใจพลาดขับรถออกไปทางแยกบางใหญ่ รถติดวินาศ เขากำลังทำสะพานข้ามแยกกันอยู่ กินเสร็จออกไปตลาดน้ำบ้านดอน หาขนมกิน จับโปเกม่อน แล้วข้ามสะพานออกไปทางบางใบไม้ ไปงานศพป้าแดงที่วัดบางใหญ่ ฝั่งลีเล็ด เจอด่านตรวจ แต่ก็ไม่มีอะไรผิด ผ่านไปจนถึงวัดบางใหญ่
นั่งคุยกันกับพี่อ้วน รอญาติๆมาจากหลายๆที่ วันนี้ทางญาติฝั่งพ่อเป็นเจ้าภาพ เจอยุวดีมากับพ่อ นั่งฟังพระสวด คุยกันนิดหน่อย แยกย้ายกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้เหลืองานค้างอีกนิดหน่อย จะรีบทำให้เสร็จ
บันทึกของเมื่อวาน 11 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 11 กุมภาพันธ์ 2560
วันนี้ตื่นเช้ามากเปลี่ยนรถกับแม่ เอาฟอร์จูนเนอร์มาใช้ เพราะต้องไปรับคนที่พังงา มีผู้โดยสารหลายคน รถมิตซู ไทรทันของผมนั่งกันไม่หมด
เคยมีคนถามสาเหตุที่ผมใช้มิตซูบิชิไม่ใช้โตโยต้า ทั้งๆที่บ้านผมใช้โตโยต้ากันทุกคน เป็นเพราะต้องขับขึ้นเขา ขึ้นดอยบ่อยๆ เวลาขึ้นเขาจะมีป้ายบอกข้างทางไว้ว่า ให้ใช้เกียร์ต่ำ
เกียร์ของโตโยต้าคันเกียร์มันสูงคงไม่เหมาะกับการขึ้นดอย .. อันนี้ผมคิดเอาเอง 555
วันนี้ไปรับคณะจากอุตรดิตถ์ ไปชมทะเล เนื่องจากหลวงเปี๊ยก มีกิจนิมนต์ ไปฉันเพล ฉลองเรือที่กระบี่ เลยพาคณะไปทัศนศึกษาด้วยเลย
ไปถึงวัดเก่าตอนเก้าโมงกว่า กำลังกรวดน้ำเตรียมตักบาตร เจอพระอาจารย์นิวัฒน์ อาจารย์อำนาจ อาจารย์สุนันท์ ส่วนอีกหลายท่านไม่ได้คุยด้วย คนเยอะมาก คงเพราะเป็นวันพระใหญ่ คนมากันมาก พี่เจน เป็นเจ้าภาพถวายอาหารทั้งวัน
รีบออกจากวัดเพื่อให้ทันฉันเพล มีรถจอดขวางทางอยู่ ออกไม่ได้ ไปประกาศแจ้งก็เงียบ ติดกันอยู่สองคัน ตัดสินใจค่อยๆเบี่ยงออกไปทีละนิดจนออกได้ ... ลุงไม่มีปืนนะ 555
เดินทางด่วนไปกระบี่ ระหว่างทางพี่เขียวโทรมาบอกว่า ป้าแดงเสียแล้ว รีบโทรบอกแม่ พ่อ ให้เข้าไปช่วยงานก่อน ผมจะรีบกลับไปคืนนี้
ถึงบ้านพี่เจี๊ยบ หรือออกเสียง เฉียบ ตามสำเนียงทุ่งสงตอนสิบเอ็ดพอดี เมนูเที่ยงเป็น ขนมจีน ไข่ต้ม กับผักอีกชุดใหญ่ จัดการกันเต็มที่เลย ก่อนจะเดินทางไปท่าเรือ อ่าวท่าเลน
นิมนต์หลวงพ่อลงเรือไปชมทะเล เพื่อเป็นสิริมงคล เดินทางวนไปเกาะผักเบี้ย ลากูน เกาะห้อง แล้วกลับมาเลย ไม่ได้ลงไปไหน พาคณะไปชมทะเลอย่างเดียวแล้วรีบขึ้นฝั่ง รีบไป รีบกลับ วันนี้มีธุระที่ห้วยยอดต่ออีกในช่วงเย็น
ถึงบนฝั่งบ่ายสองกว่าๆ อำนวยอวยพรให้เจ้าของร้าน เจ้าของเรือ โชคดี ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง แล้วออกเดินทางกันต่อไป อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
รับนิมนต์ สวด ฉันเพลที่บ้านนี้อีกครั้งในปีหน้า ... คืวข้ามปีกันเลยทีเดียว
เราเดินทางมาอำเภอห้วยยอด เพื่อมางานศพที่วัดน้ำพราย มีเกจิอาจารย์คือหลวงพ่อรื่นที่มีร่างของท่านอยู่ในโลงแก้ว ผมเคยมาทำงานแถวนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ยังมีวัตถุมงคลของท่านเก็บไว้หลายชิ้น
งานนี้เป็นงานศพพ่อของเพื่อนหลวงเปี๊ยก ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้มา แต่วันนี้มีธุระมาแถวนี้แล้วเลยแวะมาทำบุญเสียก่อน
เสร็จจากงานศพ ที่วัดน้ำพราย เดินทางกลับพังงา ส่งคณะที่วัดเก่าแล้วรีบเดินทางกลับสุราษฎร์ธานี แวะกินข้าวมื้อไหนก็ไม่รู้ที่ทับปุด กลับถึงบ้านเกือบๆตีสอง รีบนอน พรุ่งนี้มีงานอีกมากมายเลย
วันนี้ตื่นเช้ามากเปลี่ยนรถกับแม่ เอาฟอร์จูนเนอร์มาใช้ เพราะต้องไปรับคนที่พังงา มีผู้โดยสารหลายคน รถมิตซู ไทรทันของผมนั่งกันไม่หมด
เคยมีคนถามสาเหตุที่ผมใช้มิตซูบิชิไม่ใช้โตโยต้า ทั้งๆที่บ้านผมใช้โตโยต้ากันทุกคน เป็นเพราะต้องขับขึ้นเขา ขึ้นดอยบ่อยๆ เวลาขึ้นเขาจะมีป้ายบอกข้างทางไว้ว่า ให้ใช้เกียร์ต่ำ
เกียร์ของโตโยต้าคันเกียร์มันสูงคงไม่เหมาะกับการขึ้นดอย .. อันนี้ผมคิดเอาเอง 555
วันนี้ไปรับคณะจากอุตรดิตถ์ ไปชมทะเล เนื่องจากหลวงเปี๊ยก มีกิจนิมนต์ ไปฉันเพล ฉลองเรือที่กระบี่ เลยพาคณะไปทัศนศึกษาด้วยเลย
ไปถึงวัดเก่าตอนเก้าโมงกว่า กำลังกรวดน้ำเตรียมตักบาตร เจอพระอาจารย์นิวัฒน์ อาจารย์อำนาจ อาจารย์สุนันท์ ส่วนอีกหลายท่านไม่ได้คุยด้วย คนเยอะมาก คงเพราะเป็นวันพระใหญ่ คนมากันมาก พี่เจน เป็นเจ้าภาพถวายอาหารทั้งวัน
รีบออกจากวัดเพื่อให้ทันฉันเพล มีรถจอดขวางทางอยู่ ออกไม่ได้ ไปประกาศแจ้งก็เงียบ ติดกันอยู่สองคัน ตัดสินใจค่อยๆเบี่ยงออกไปทีละนิดจนออกได้ ... ลุงไม่มีปืนนะ 555
เดินทางด่วนไปกระบี่ ระหว่างทางพี่เขียวโทรมาบอกว่า ป้าแดงเสียแล้ว รีบโทรบอกแม่ พ่อ ให้เข้าไปช่วยงานก่อน ผมจะรีบกลับไปคืนนี้
ถึงบ้านพี่เจี๊ยบ หรือออกเสียง เฉียบ ตามสำเนียงทุ่งสงตอนสิบเอ็ดพอดี เมนูเที่ยงเป็น ขนมจีน ไข่ต้ม กับผักอีกชุดใหญ่ จัดการกันเต็มที่เลย ก่อนจะเดินทางไปท่าเรือ อ่าวท่าเลน
นิมนต์หลวงพ่อลงเรือไปชมทะเล เพื่อเป็นสิริมงคล เดินทางวนไปเกาะผักเบี้ย ลากูน เกาะห้อง แล้วกลับมาเลย ไม่ได้ลงไปไหน พาคณะไปชมทะเลอย่างเดียวแล้วรีบขึ้นฝั่ง รีบไป รีบกลับ วันนี้มีธุระที่ห้วยยอดต่ออีกในช่วงเย็น
ถึงบนฝั่งบ่ายสองกว่าๆ อำนวยอวยพรให้เจ้าของร้าน เจ้าของเรือ โชคดี ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง แล้วออกเดินทางกันต่อไป อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
รับนิมนต์ สวด ฉันเพลที่บ้านนี้อีกครั้งในปีหน้า ... คืวข้ามปีกันเลยทีเดียว
เราเดินทางมาอำเภอห้วยยอด เพื่อมางานศพที่วัดน้ำพราย มีเกจิอาจารย์คือหลวงพ่อรื่นที่มีร่างของท่านอยู่ในโลงแก้ว ผมเคยมาทำงานแถวนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ยังมีวัตถุมงคลของท่านเก็บไว้หลายชิ้น
งานนี้เป็นงานศพพ่อของเพื่อนหลวงเปี๊ยก ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้มา แต่วันนี้มีธุระมาแถวนี้แล้วเลยแวะมาทำบุญเสียก่อน
เสร็จจากงานศพ ที่วัดน้ำพราย เดินทางกลับพังงา ส่งคณะที่วัดเก่าแล้วรีบเดินทางกลับสุราษฎร์ธานี แวะกินข้าวมื้อไหนก็ไม่รู้ที่ทับปุด กลับถึงบ้านเกือบๆตีสอง รีบนอน พรุ่งนี้มีงานอีกมากมายเลย
บันทึกของเมื่อวาน 10 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 10 กุมภาพันธ์ 2560
วันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ตื่นเช้ากินข้าวเตรียมตัวเข้าสวน หลายเดือนที่ฝนตกติดต่อกัน ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก วันนี้เลยต้องเข้าไปดูซักหน่อย
ก่อนเข้าไปด้านในเตรียมพื้นที่ไว้ตากหมากข้างบ้าน เข้าไปเก็บหมากหล่นมาได้นิดหน่อย ปีนี้หมากในสวนยังมีไม่มากนัก และดูท่าว่าจะน้อยกว่าปีก่อน
เดินเก็บทางมะพร้าว ดูน้ำในคูร่องสวน มีบางจุดที่น้ำไม่ได้ไหลข้ามคันคูที่ทำไว้ ทำให้ปลาเล็กๆขึ้นไปได้ไม่ถึงต้นน้ำ จัดการแก้ไขให้เป็นฝายน้ำล้น เพื่อให้ปลาสามารถขึ้นไปถึงด้านบนได้ อีกสองสามวันจะขึ้นไปดูอีกทีว่า สำเร็จหรือเปล่า
เก็บส้มโอลงมาสี่ลูก ส่วนกล้วยหอมอีกสองเครือที่เล็งไว้ยังไม่แก่ เลยปล่อยไว้ก่อน อาทิตย์หน้าค่อยขึ้นมาตัด แต่ถ้าลืมก็ถือว่าแบ่งให้นกกิน
เสร็จงานในสวน ลงว่าว่าจะตัดหญ้าต่อในแปลงหลังบ้าน ที่ปลูกไม้ป่าไว้ ปีนี้ ต้นพยอม ตะเคียน สูงราวๆสองเมตรแล้ว แต่ถ้าเทียบกับประดู่ที่ปลูกพร้อมกันยังห่างกันมาก ประดู่สูงราวๆสี่เมตรทั้งๆที่ปลูกพร้อมกัน
จะตัดหญ้า .. น้ำมันหมด ลืมไปว่าเอาใส่มอเตอร์ไซค์เสียแล้ว เลยยกยอดไปวันหลังค่อยตัดหญ้า เข้าทางคนขี้เกียจพอดี 555
ช่วงบ่ายเอาของไปให้พี่เจนนี่ แล้วไปเดินออกกำลังที่สนามกีฬา กินลูกชิ้นทอด เดินฟักไข่โปเกม่อนไปด้วย วันนี้เดินไปราวๆหกกิโลเมตร จนประมาณเกือบหกโมงเย็น ออกไปริมน้ำบ้านดอน
เดินฟักไข่ จับโปเกม่อนต่อ เพราะช่วงนี้มีอีเวนท์ ต้องเร่งทำคะแนน มีคนมาเดินจับโปเกม่อนหลายคน แสดงว่ายังมีคนเล่นเกมส์นี้อีกหลายคน ยังไม่เลิกเล่นไปเสียทั้งหมด สรุปว่าวันนี้เดินไปประมาณสิบกิโลเมตร
กลับบ้านกินข้าวอีกรอบ นอนพักผ่อน พรุ่งนี้มีธุระที่พังงาตั้งแต่เช้า
วันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ตื่นเช้ากินข้าวเตรียมตัวเข้าสวน หลายเดือนที่ฝนตกติดต่อกัน ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก วันนี้เลยต้องเข้าไปดูซักหน่อย
ก่อนเข้าไปด้านในเตรียมพื้นที่ไว้ตากหมากข้างบ้าน เข้าไปเก็บหมากหล่นมาได้นิดหน่อย ปีนี้หมากในสวนยังมีไม่มากนัก และดูท่าว่าจะน้อยกว่าปีก่อน
เดินเก็บทางมะพร้าว ดูน้ำในคูร่องสวน มีบางจุดที่น้ำไม่ได้ไหลข้ามคันคูที่ทำไว้ ทำให้ปลาเล็กๆขึ้นไปได้ไม่ถึงต้นน้ำ จัดการแก้ไขให้เป็นฝายน้ำล้น เพื่อให้ปลาสามารถขึ้นไปถึงด้านบนได้ อีกสองสามวันจะขึ้นไปดูอีกทีว่า สำเร็จหรือเปล่า
เก็บส้มโอลงมาสี่ลูก ส่วนกล้วยหอมอีกสองเครือที่เล็งไว้ยังไม่แก่ เลยปล่อยไว้ก่อน อาทิตย์หน้าค่อยขึ้นมาตัด แต่ถ้าลืมก็ถือว่าแบ่งให้นกกิน
เสร็จงานในสวน ลงว่าว่าจะตัดหญ้าต่อในแปลงหลังบ้าน ที่ปลูกไม้ป่าไว้ ปีนี้ ต้นพยอม ตะเคียน สูงราวๆสองเมตรแล้ว แต่ถ้าเทียบกับประดู่ที่ปลูกพร้อมกันยังห่างกันมาก ประดู่สูงราวๆสี่เมตรทั้งๆที่ปลูกพร้อมกัน
จะตัดหญ้า .. น้ำมันหมด ลืมไปว่าเอาใส่มอเตอร์ไซค์เสียแล้ว เลยยกยอดไปวันหลังค่อยตัดหญ้า เข้าทางคนขี้เกียจพอดี 555
ช่วงบ่ายเอาของไปให้พี่เจนนี่ แล้วไปเดินออกกำลังที่สนามกีฬา กินลูกชิ้นทอด เดินฟักไข่โปเกม่อนไปด้วย วันนี้เดินไปราวๆหกกิโลเมตร จนประมาณเกือบหกโมงเย็น ออกไปริมน้ำบ้านดอน
เดินฟักไข่ จับโปเกม่อนต่อ เพราะช่วงนี้มีอีเวนท์ ต้องเร่งทำคะแนน มีคนมาเดินจับโปเกม่อนหลายคน แสดงว่ายังมีคนเล่นเกมส์นี้อีกหลายคน ยังไม่เลิกเล่นไปเสียทั้งหมด สรุปว่าวันนี้เดินไปประมาณสิบกิโลเมตร
กลับบ้านกินข้าวอีกรอบ นอนพักผ่อน พรุ่งนี้มีธุระที่พังงาตั้งแต่เช้า
บันทึกของเมื่อวาน 9 กุมภาพันธ์ 2560
บันทึกของเมื่อวาน 9 กุมภาพันธ์ 2560
วันนี้ตื่นสายนิดหน่อย ออกจากบ้านตอนเก้าโมงกว่าๆ วันนี้พักงานที่ชุมพรก่อน มีธุระต้องไปรับทีมงานจากอุตรดิตถ์ที่สนามบิน ไปส่งที่พังงา
ออกจากบ้านแบบสบายๆ เติมน้ำมันปั๊มบางจาก เอาแต้มในบัตรที่สะสมมาเมื่อปีที่แล้วแลกเติมน้ำมันมาสองร้อยบาทด้วย บัตรของปั๊มบางจากเก็บแต้มได้ตลอดไม่ตัดทิ้งตอนสิ้นปี น่าใช้กว่าอีกหลายๆที่ เหมาะกับคนที่เดินทางประจำ อย่างน้อยก็ยังได้สิ่งตอบแทนคืนกลับมาบ้าง
ถนนหน้าสนามบินรถติดยาวมาก เกิดจากการทำถนน แต่ก็ผ่านไปได้เรื่อยๆ คนขับรถมีน้ำใจให้กัน ผลัดกันเข้า ผลัดกันออก ทำให้รถขยับไปได้เรื่อยๆ เข้าไปในสนามบิน ไม่มีที่จอดใกล้ๆ สนามบินกำลังปรับปรุงลานจอดรถ ต้องไปจอดด้านหลังแล้วเดินเข้ามา อีกไม่นานก็จะเริ่มเก็บเงินค่าที่จอดรถเหมือนสนามบินนานาชาติที่อื่น
วันนี้โปเกม่อน เริ่มอีเวนท์วาเลนไทน์ มีตัวสีชมพูออกเยอะมาก แคนดี้คูณสอง จับที่สนามบินได้เยอะพอสมควร จนเครื่องของแอร์ เอเซียเดินทางมาถึง ก๋เข้าไปรอรับทีมงาน
พาทีมงานแวะชิมขนมจีนศาลเจ้าพังงา ทีมงานชอบใจกันมาก บางคนก็กินสองจาน บอกว่าชอบผักสดบนโต๊ะที่มีมากมาย บางอย่างก็ไม่คิดว่าจะเอามากินกับขนมจีนได้ อย่างสัปรด และปลาตัวเล็กๆ ... เดี๋ยวมีโอกาสจะพาไปกินขนมจีน ไก่ทอด ที่กระบี่ซักที
อิ่มท้องแล้ว พาไปซื้อรองเท้าแตะ ของใช้ส่วนตัว พาไปส่งที่วัดเก่าเจริญธรรม ช่วงนี้มีงานปริวาสกรรม มีพระอยู่มาก ไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก รีบกลับสุราษฎร์ธานี เผื่อว่าจะทัน ข้าวมันไก่ โกป็อก ... แต่ไม่ทันหมดซะก่อน 555
ออกไปธุระในเมือง แวะเข้าไปสวนสาธารณะริมน้ำบ้านดอน วันนี้ดูคึกคัก มีเทรนเนอร์เดินจับโปเกม่อนอยู่หลายคน มีซากุระโรยอยู่ทุกเสา อีเวนท์ครั้งนี้ซากุระโรยแต่ละครั้งได้ หกชั่วโมง มีตัวออกมาให้จับเยอะมาก
จับได้พอสมควรกลับบ้นตอนสี่ทุ่มกว่าๆ อีโว ทรานเฟอร์โปเกม่อน เสร็จเกือบๆตีหนึ่ง นอนเล่นๆ ดูยูทูป จนตีสองกว่า สวดมนต์ ไหว้พระ แล้วนอน
วันนี้ตื่นสายนิดหน่อย ออกจากบ้านตอนเก้าโมงกว่าๆ วันนี้พักงานที่ชุมพรก่อน มีธุระต้องไปรับทีมงานจากอุตรดิตถ์ที่สนามบิน ไปส่งที่พังงา
ออกจากบ้านแบบสบายๆ เติมน้ำมันปั๊มบางจาก เอาแต้มในบัตรที่สะสมมาเมื่อปีที่แล้วแลกเติมน้ำมันมาสองร้อยบาทด้วย บัตรของปั๊มบางจากเก็บแต้มได้ตลอดไม่ตัดทิ้งตอนสิ้นปี น่าใช้กว่าอีกหลายๆที่ เหมาะกับคนที่เดินทางประจำ อย่างน้อยก็ยังได้สิ่งตอบแทนคืนกลับมาบ้าง
ถนนหน้าสนามบินรถติดยาวมาก เกิดจากการทำถนน แต่ก็ผ่านไปได้เรื่อยๆ คนขับรถมีน้ำใจให้กัน ผลัดกันเข้า ผลัดกันออก ทำให้รถขยับไปได้เรื่อยๆ เข้าไปในสนามบิน ไม่มีที่จอดใกล้ๆ สนามบินกำลังปรับปรุงลานจอดรถ ต้องไปจอดด้านหลังแล้วเดินเข้ามา อีกไม่นานก็จะเริ่มเก็บเงินค่าที่จอดรถเหมือนสนามบินนานาชาติที่อื่น
วันนี้โปเกม่อน เริ่มอีเวนท์วาเลนไทน์ มีตัวสีชมพูออกเยอะมาก แคนดี้คูณสอง จับที่สนามบินได้เยอะพอสมควร จนเครื่องของแอร์ เอเซียเดินทางมาถึง ก๋เข้าไปรอรับทีมงาน
พาทีมงานแวะชิมขนมจีนศาลเจ้าพังงา ทีมงานชอบใจกันมาก บางคนก็กินสองจาน บอกว่าชอบผักสดบนโต๊ะที่มีมากมาย บางอย่างก็ไม่คิดว่าจะเอามากินกับขนมจีนได้ อย่างสัปรด และปลาตัวเล็กๆ ... เดี๋ยวมีโอกาสจะพาไปกินขนมจีน ไก่ทอด ที่กระบี่ซักที
อิ่มท้องแล้ว พาไปซื้อรองเท้าแตะ ของใช้ส่วนตัว พาไปส่งที่วัดเก่าเจริญธรรม ช่วงนี้มีงานปริวาสกรรม มีพระอยู่มาก ไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก รีบกลับสุราษฎร์ธานี เผื่อว่าจะทัน ข้าวมันไก่ โกป็อก ... แต่ไม่ทันหมดซะก่อน 555
ออกไปธุระในเมือง แวะเข้าไปสวนสาธารณะริมน้ำบ้านดอน วันนี้ดูคึกคัก มีเทรนเนอร์เดินจับโปเกม่อนอยู่หลายคน มีซากุระโรยอยู่ทุกเสา อีเวนท์ครั้งนี้ซากุระโรยแต่ละครั้งได้ หกชั่วโมง มีตัวออกมาให้จับเยอะมาก
จับได้พอสมควรกลับบ้นตอนสี่ทุ่มกว่าๆ อีโว ทรานเฟอร์โปเกม่อน เสร็จเกือบๆตีหนึ่ง นอนเล่นๆ ดูยูทูป จนตีสองกว่า สวดมนต์ ไหว้พระ แล้วนอน