เมื่อวานเจอโชคชัยมาขายน้ำผักสกัด คิดถึงความหลังเมื่อสมัยหนุ่มๆ .. เรามาเล่าความหลังกันดีกว่า
ปี 2546 เราได้ทำงานคู่กันในแผนกวิศวกรรมของ ดีแทค โชคยังไม่ย้ายไปแผนกเซลล์ เราจับคู่วิ่งเป็นบั๊ดดี้กัน ดูพื้นที่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ แต่หลักๆจะอยู่กระบี่ พังงา มากกว่า เพราะภูเก็ต มีแต่แสงสี รุ่นพี่ๆเขาจอง
จำได้ว่าเป็นรถ อีซูซุ ทะเบียน 5422 สุราษฎร์ธานี
วันหนึ่ง เราสองคนนั่งกินเหล้ากันที่ใต้โรงแรมบุญสยาม มีพี่อู๊ด CAT สุราษฎร์ธานีนั่งกินด้วยอีกคน แกมาธุระที่กระบี่พอดี เลยนั่งคุยกันนิดหน่อย ก็กินไม่มาก ราวๆสองแบน
นั่งกินพลางวางแผนงานไปพลาง อาทิตย์นี้มีงาน ออนเซอร์วิส สถานีฐานใหม่ที่คุระบุรี สมัยนั้นการมีสัญญาณโทรศัพท์ในแต่ละพื้นที่มีความสำคัญมากๆ ทั้งผู้ใช้บริการ และรายได้ของบริษัท
เอางี้ ... ผมเริ่มวางแผน เดี๋ยวเราไปนอนคุระบุรีเลยดีกว่า โหลดคอนฟิก ทิ้งไว้ก่อน เช้ามาอัพเดท ซอฟต์แวร์ แจ้ง BSS เอาไซท์ขึ้นเลย
เอางั้นเหรอพี่ ... อืมเอาไงก็เอากัน
เราออกจากกระบี่ราวๆเที่ยงคืน โชคชัยเป็นคนขับรถ ผมเอนเบาะหลับไปตั้งแต่อ่าวลึก มารู้สึกตัวอีกทีคือโชคปลุก แล้วถามว่า "พี่รถเป็นไรไม่รู้"
"กูจะรู้เหรอ กูจบอิเล็ก" ผมตอบไปแบบนั้นเพราะคิดว่าโชคพูดเล่น แต่พอมองไปรอบๆรถ "เฮ๊ย นี่มันที่ไหนวะ"
มีแต่ป่า มืดมิด รถจอดสนิทอยู่บนเขา เส้นทางแคบๆ เรามากันทางเขานางหงส์ เราอยู่บนเขานางหงส์ เรารถเสียอยู่บนเขานางหงส์ตอนตีหนึ่ง โอ้ .. พระเจ้า
"ผมว่าทางนี้มันใกล้กว่า ไปโคกกลอย ท้ายเหมืองนะพี่"
"ใช่จ๊ะ ... แต่ไม่ใช่ตอนตีหนึ่งแบบนี้ 555"
เรานั่งรออยู่ข้างทาง เผื่อจะมีรถผ่านมาจะได้ขอความช่วยเหลือ แต่พอเห็นเรามีแต่คนรีบเหยียบหนี ไม่มีใครจอดเลย เป็นผมก็ไม่จอด คนดีๆที่ไหนจะมานั่งแถวนี้ตอนตีหนึ่ง
ที่ตรงนี้ถ้ามาจากทับปุดจะอยู่ก่อนถึงศาลแม่นางหงส์นิดเดียว เวลาขับรถผ่านจะคิดถึงเรื่องนี้ทุกที
สุดท้ายเราช่วยกัน เข็นกลับรถ ให้มันไหลกลับลงมา ตามทาง คิดว่าหยุดตรงไหนก็นอนกันตรงนั้นแหละ รถไหลมาเรื่อยๆ ได้ระยะพอสมควร
จนมาติดอยู่ในโค้งก่อนขึ้นเนินในโค้งริมเขา มันไหลขึ้นไปไม่ได้ แถมยังจอดอยู่ในโค้งอันตราย ซ้ายเป็นป่า ขวาเป็นเหว ถ้าเรานอนกันในรถ โดนรถแหกโค้งมาชนตาย จะทำไง สมัยนั้นยังไม่มีเมียกันทั้งคู่
ดูเวลา ตีสองครึ่งเข้าไปแล้ว เราสองคนเลยต้องตัดสินใจอีกครั้ง เก็บของที่จำเป็น เดินไปทับปุดกันดีกว่า ผมสะพายโน๊ตบุ๊คกับโทรศัพท์ อย่างอื่นทิ้งไว้ในรถทั้งหมด โน๊ตบุ๊คยี่ห้อ โตชิบ้า ตัวเล็กๆตอนแรกๆมันก็เบาดี อยู่ไปๆ มันเริ่มหนัก ต้องผลัดกันสะพาย ทั้งๆที่ในเวลาปกติมันตัวเล็กนิดเดียวเอง
บนเขานางหงส์ตอนตีสองกว่าๆ โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ มีระบบ 1800 ที่เงียบกริบเป็นสากกระเบือ กับ 800 ที่มาโทรได้ตอนก่อนถึงสามแยกทับปุด โทรแจ้งพี่แป๊ะ ที่เป็นแอดมินตอนนั้น ให้รับทราบ
มาลองวัดระยะในตอนเช้า ที่กลับไปเอารถ พวกเราเดินลงมาสิบกิโลพอดี ถ้าเป็นพื้นราบในเวลาปกติก็ไม่เท่าไหร่ บนเขานางหงส์ตอนตีสองกว่า มันเลยดูเหนื่อยกว่าปกติ
ตีสี่ครึ่ง เรามาถึงสามแยกทับปุด โทรติดต่อพี่โรจน์ได้พอดี บอกให้มาช่วยลากรถตอนเช้า แล้วเราสองคนก็นอนหลับบนม้าหินอ่อนตรงสามแยก เมื่อก่อนจะมีป้อมตำรวจอยู่ แต่ตอนนี้ป้อมรื้อไปแล้ว ตอนนอนมีเราสองคน แต่ตอนตื่นมา มีคนมารอรถเยอะแยะเลย ... ไม่รู้จะอายใครดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น