วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บทความเก่าๆ - ขาดทุน คือ กำไร

ขาดทุน คือ กำไร

วันที่ 26มีนาคม 2549

มาแปลกๆสำหรับวันนี้ หลังจากที่ผมมึนๆอยู่กับชีวิตที่เหมือนเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนด้วยเลือดเนื้อแรงกายของตัวเอง จนทำให้คิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี จนวันนี้ได้ยินใครบางคนบ่นเรื่องขาดทุน ก็ทำให้คิดเล่นๆว่า ที่คุณบ่นกันว่าขาดทุนแท้ที่จริงแล้วขาดทุนจริงหรือเปล่า แล้วต้นทุนมันซักเท่าไหร่ ต้นทุนเป็นอะไรและ ที่ขาดทุนมันขาดทุนเท่าไหร่ ว่ากันมาเป็นข้อๆเลยทำให้ผมได้ความคิดที่ว่า จริงๆแล้วไม่มีอะไรขาดทุนหรอกครับเพียงแต่กำไรมันไม่ได้มาในรูปแบบของเงินเท่านั้นเอง เคยอ่านนิทานเรื่องนึงไม่รู้ว่าเคยอ่านเคยฟังกันหรือยัง ถ้าเคยอ่านเคยฟังแล้วก็อ่านๆไปเถอะถือว่าทบทวนความจำกัน ผมจะเล่าคร่าวๆก็แล้วกันนะครับ

มีคนจีนคนนึงแกเป็นเศรษฐีย่อมๆเลยละครับ แกมีลูกชายอยู่สามคน อายุก็ไล่ๆกันมาวันนึงแกเกิดอยากจะสอนลูกให้ทำมาค้าขายเหมือนแก แต่แกก็ไม่รู้จะสอนยังไงเพราะชีวิตแกใช้ประสบการณ์จริงตลอด ไม่ได้จบ มหาลัยขอนแก่นหรือเชียงใหม่เหมือนใครบางคน แถมยังไม่เคยได้ ป โท ไทยคดีเหมือนนักร้องใต้บางคนด้วย แกเลยไม่มั่นใจว่าจะสอนลูกได้้ดีหรือเปล่า แกเลยตัดสินใจขุดเงินที่แกฝังดินไว้ที่หลังบ้านมาสามแสนบาท แบ่งให้ลูกสามคน คนละแสน แล้วบอกลูกว่าให้แยกย้ายกันเอาเงินคนละหนึ่งแสนบาทนี่ไปลงทุน อีกสามปีให้กลับมารายงานความคืบหน้า ถ้าไม่ครบสามปีไม่ต้องกลับมา พ่อจะใช้ชีวิตอยู่กับกิ๊กคนใหม่เงียบๆ อย่ามารบกวนพ่อจนกว่าจะครบสามปี

และแล้วเวลาก็ผ่านไปจนครบสามปีตามเวลาสากล เวลาสามปีนี้ในประเทศแถวๆเอเซียบางประเทศอาจมีนายกได้ถึงสาม สี่คนเลยทีเดียว เพราะการเมืองในประเทศแถวๆเอเซียประเทศนั้นมันสับสน มีแต่คนแย่งกันเป็นนายก แถมบางครั้งที่เป็นอยู่แล้วคนไล่กันทั้งประเทศ มันยังไม่ลาออกเลยก็มี กลับมาเรื่องนิทานกันต่อ เมื่อกลับมาถึงบ้านลูกชายทั้งสามก็เข้าไปกราบพ่อกับกิ๊กที่เปลี่ยนสถานะเป็นแม่เลี้ยงของทั้งสามไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากผ่านการทดสอบคุณภาพมาถึงสามปีทำให้ ท่านเศรษฐีมั่นใจว่าทนทานพอที่จะขึ้นประจำการได้ เศรษฐีถามลูกแต่ละคนว่าไปทำอะไรกันมาและได้ผลอย่างไรกันบ้าง ลูกชายคนโตบอกว่า เอาเงินไปลงทุนให้หุ้นกลุม ชินคอร์ป ได้กำไรมามากมาย หลังจากขายหุ้นไปพร้อมๆกับคนหน้าเหลี่ยมได้ กำไรมามากมายแม้จะมีข้อหาขายชาติพ่วงมาด้วยแต่ก็ไม่เป็นไร รวยซะอย่าง เศรษฐีก็ชมว่า เยี่ยมมาก ดีๆๆๆ ส่วนลุกชายคนรอง กล่าวสีหน้าเศร้าๆว่า ผมเอาเงินไปลงทุนบริษัท มือถืออีกค่าย ปรากฎว่าไม่ HAPPY ขาดทุนหมดตัวต้องบากหน้ากลับมาหาพ่อ เศรษฐี ก็บอกว่า เยี่ยมๆๆ ดีๆๆๆ เหมือนกัน ส่วนลูกชายคนที่สามบอกว่า ผมเอาเงินที่เตี่ยให้ไปฝังดินเหมือนที่เตี่ยทำ วันนี้ผมเอาเงินกลับมาคืนเตี่ยครบทั้งหนึ่งแสนที่เอาไปเลยครับ ปรากฎว่า เศรษฐีโมโหมาก ด่าว่าลูกชายคนที่สามมากมาย

ไอ้ชิกหาย ลื้อไปอยู่ไหนมาตั้งสามปี ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ถึงลื้อจะทำการค้าแล้วขาดทุนก็ยังมีกำไรเป็น กำไรชีวิต นี่ชีวิตลื้อขาดทุนชัดๆ ถ้าคิดจะไม่ทำอะไร อยู่ไปวันๆ ก็ลองโทรไปถามเจ้านภดล มันดูว่าคนที่ไม่ทำอะไร วันๆเอาแต่สร้างภาพให้นายดูว่าขยัน เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน แทงเพื่อนข้างหลัง นั้นชีวิตตอนนี้มันเป็นยังไง (ขอตอบครับ ตอนนี้เพื่อนเริ่มไม่คบมันแล้วครับ แต่ไม่รู้มันจะรู้ตัวหรือยัง)

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไฟแดงอย่าฝ่าตำรวจจะจับ อิๆๆ ไม่ใช่สิ สอนให้รู้ว่า สิ่งใดๆก็ตามที่เราได้ทำไปแล้วเป็นกำไรชีวิตทั้งสิ้นไม่มีสิ่งใดขาดทุน แต่กำไรอาจจะไม่ได้กลับมาในรูปแบบของเงินเสมอไป ความสุขทางใจก็เป็นกำไรอย่างนึงครับ

มีคนบางคนที่รวยเงินมากๆเป็นที่รักของคนหลายๆคนในภาคใต้แต่กลับฆ่าตัวตายทางสังคม ภายในคืนเดียว ด้วยคำพูดที่ว่า ผิดด้วยหรือที่ผมรู้การเมือง เออ คุณไม่ผิดหรอกครับ แต่ผมขาดทุนทางความรู้สึกที่มีความรู้สึกดีๆที่มีให้คุณมา อยากจะบอกว่า อีกเก้าสิบกว่าวันผมจะทำบุญครบร้อยวันที่คุณได้ตายจากความรู้สึกของผมครับ และมีสิ่งที่จะร่วมสนุกคือ ใครตอบได้ว่าไอ้ระยำที่มันไม่ผิดที่รู้การเมืองบนเวทีเชียร์ทักษิณคนนี้เป็นใครมา Post บอกชื่อที่อยู่ที่เวปบอร์ดนะครับ ผมมีของที่ระลึกส่งไปให้ครับ แล้วพบกันใหม่นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น