วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ความทุกข์มาโปรด ความสุข...



ความทุกข์มาโปรด ความสุขโปรยปราย

ผมได้เจอหนังสือเล่มนี้ที่ในปั๊มน้ำมันในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง (ทำไมต้องแห่งหนึ่งด้วย บอกไปสิว่า 7-11 ) ผมสะดุดตากับภาพปกที่ดูสบายตา และแน่นอนครับว่าเมื่อเห็นราคา 99 บาท ทำให้ผมไม่ลังเลที่จะซื้อติดมือกลับมาด้วย วันนั้นผมต้องเดินทางไปทำงานที่จังหวัดกระบี่ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเพื่อนที่ดีมากๆของผมในคืนนั้น ผมอ่านรวดเดียวจบ ด้วยอารมณ์ที่เป็นสุข

ในห้วงของความรู้สึกบอกอะไรกับผมได้หลายๆอย่าง การที่ได้อยู่คนเดียวในห้องเงียบได้อ่านหนังสือแนวๆนี้ทำให้จิตใจปลอดโปร่งมากมาย ทั้งๆที่ช่วงนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองกำลังเข้าขั้นวิกฤติ มีการเผาห้างสรรพสินค้า มีการเผาบ้านเผาเมืองกันอย่างมากมายในกรุงเทพ แต่เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเรื่องราวขุ่นมัวที่อยู่ในใจก็เลือนหายไป (แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม)

ในเช้าวันต่อมา มีพี่สาวที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกับผมโทรมาคุยถึงเรื่องเหตุการณ์บ้านเมือง น้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนถึงความเครียด ผมก็คุยกับพี่คนนี้ไปเรื่อยๆ แล้วใจก็คิดถึงหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาทันที และคิดว่าถ้าพี่คนนี้ได้อ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนผม อารมณ์ของพี่คงจะเย็นลงบ้าง และเมื่อผมกลับมาถึงสุราษฎร์ธานี ผมกลับไปที่ 7-11 ร้านเดิมอีกครั้ง หยิบหนังสือเล่มนี้ออกมาจากชั้นวางทั้งหมด (มีทั้งหมด 5 เล่ม ) จ่ายเงินพร้อมๆกับสีหน้าแปลกๆของพนักงานที่แอบมองผม

ก็จะไม่ให้แปลกได้อย่างไรในเมื่อสภาพผมตอนนั้น หนวดเครารุงรัง สภาพเหมือนคนผ่านสมรภูมิสงครามมา เสื้อผ้าก็เลอะเทอะจากการทำงาน ยังไม่ได้เข้าบ้านกลัวว่าแถวๆบ้านจะไม่มีขายเลยต้องรีบไปซื้อ รวมทั้งนอกจากจะมีหนังสือธรรมะ ห้าเล่มแล้ว ไอ้มหาโจรยังซื้อนมอีกหนึ่งขวดด้วย (ปกติผมชอบดื่มนมก่อนนอน) มันเลยดูไม่เข้ากันซักเท่าไหร่

ผมได้หนังสือมา ห้าเล่ม รวมกับของเดิมเป็นหกเล่ม ผมก็เริ่มแจกทันที ให้น้องชาย ไปหนึ่งเล่ม เก็บไว้ที่บ้านสองเล่ม แล้วก็เอาไปให้พี่สาวคนนี้ที่ออฟฟิศ ตอนเอาไปให้ก็ยังได้นั่งคุยกันอีกมากมาย แต่โดยรวมแล้วจะเป็นไปในเรื่องของความเลื่อมใสศรัทธาในท่าน ว.วิชรเมธี เพราะท่านดูเรียบๆง่ายๆ คำสอนต่างๆก็ตรงประเด็นดี อบอุ่นเยือกเย็น หนังสือของท่านแต่ละเล่มจึงมีคุณค่าที่น่าสะสม เก็บไว้อ่านเองหรือแบ่งปันให้กับคนที่เรารัก

"พระก็ต้องเป็นพระ" มีคนบอกผมแบบนั้น พระจะมาเป็นนักแสดง พระจะมาเป็นพ่อค้า.. ค้าธรรมะ มันไม่ได้ เพราะในบางครั้งเราอาจจะเคยเห็น ธรรมะราคาแพง ราคาของหนังสือที่แพงจนเอื้อมไม่ถึง แพงไม่ว่า สงวนลิขสิทธิ์ ตัวใหญ่มาก อยู่ที่หลังปกหนังสือ ใช่ครับหนังสือมันต้องมีลิขสิทธิ์ แต่ผมเข้าใจว่า ธรรมะที่เราศึกษากันนี้ พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้และนำมาสั่งสอนมนุษย์สืบต่อกันมา ดังนั้นการที่เอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเขียนมาแปลแล้วจดลิขสิทธิ์นั้น คงจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก แถมยังตั้งราคาจนแพงเกินจริงแล้วแบบนั้นจะเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างไร

หนังสือเล่มนี้ "ความทุกข์มาโปรด ความสุขโปรยปราย" เป็นหนังสือปกแข็ง เนื้อหา 179 หน้า ไม่รวมคำนำและประวัติผู้เขียน ซึ่งราคา 99 บาทนี้เป็นราคาที่น่าสนใจมากๆ ไม่แพงเลยและที่สำคัญรายได้จากการจำหน่าย ยังเอาไปสมทบทุนสร้างอาคารวิปัสนากรรมฐาน ณ วัดป่าวิมุตตยาลัย รังสิตคลอง ๑๔ จังหวัดปทุมธานีอีกด้วย จะเห็นได้ว่า หนังสือเล่มนี้นอกจากจะเป็นหนังสือที่อ่านแล้วสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้ผู้อ่านได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังได้ร่วมกันสร้างบุญสร้างกุศลกันอีกด้วย

หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือดีอีกหนึ่งเล่มที่ผมนำมาใส่ไว้ในหัวข้อชั้นหนังสือที่นี่ครับ ใครที่ยังไม่ได้อ่านก็รีบไปหามาอ่านกันนะครับ ยิ่งได้อ่านเร็วเท่าไหร่ชีวิตก็จะมีความสุขเร็วขึ้นเท่านั้นครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น