บันทึกของเมื่อวาน 11 มีนาคม 2560
วันนี้ไม่รีบตื่นนอน ตั้งใจว่าจะหยุดงานในสวนมาทำฐานตั้งศาลพระภูมิให้พ่อให้เสร็จเสียที มีคนกล่าวว่า พระภูมิไม่ใช่เรื่องของพุทธศาสนา แต่ผมว่า ยุคนี้ไหว้ผีดีกว่าไหว้พระชั่วๆ ... จริงๆนะ
ใครจะว่ามันเป็นเปลือก แต่ท่านพุทธทาสบอกว่า ผลไม้ที่มีเปลือกจะอยู่ได้นานกว่าผลไม้ที่ปอกเปลือกออก ต้นไม้ที่เหลือแต่แก่น ไม่นานมันก็ตาย โลกนี้ไม่มีสิ่งใดไร้ประโยชน์ ของอย่างเดียวกันเราอาจจะใช้งานไม่เหมือนกันก็ได้
ออกจากบ้านไปตอนเก้าโมง ซื้ออาหารแมว อาหารปลา กับปูนสองกระสอบ แวะถามราคาศาลพระภูมิที่ร้านแถวๆวัดดอนกระถิน ราคาถูกกว่าแถวบ้านพอสมควร รีบกลับบ้านเอาของลงจากรถ ถอดถังเก็บของหลังรถออก จะได้มีพื้นที่ขนของมากขึ้น
กลับมาซื้อศาลพระภูมิให้เสร็จเสียเลย ไหนๆก็เจอร้านที่ราคาพอสมควรแล้ว จะได้ไม่ต้องออกมาหลายครั้ง
ซื้อมันย่างมาฝากพ่อถุงนึง
พี่เขียว แวะมาเยี่ยมพ่อ นั่งคุยกันเรื่องเทพื้นศาล มีหลักการ มีเคล็ด อะไรอยู่มากพอสมควร แต่ก็ดีที่ได้รู้ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่มากทีเดียว ว่างๆจะค้นข้อมูลมาเล่าให้ฟัง
หลังจากพี่เขียวกลับไป เริ่มงาน จัดเตรียมของ ผสมปูน ทราย หิน ลงเทพื้นเป็นฐานชั้นแรก เทเสร็จ รู้เลยว่าทรายไม่พอ โทรหาเพื่อนกาญจนา เจ้าของท่าทรายแถวๆบางเดือน ออกไปขอทรายมาซักนิดหน่อย พอได้เทฐานให้เสร็จ
นั่งคุยกันที่ท่าทราย ถามว่าดูดทรายขึ้นมาเคยเจอของเก่าๆบ้างหรือเปล่า ก็เจออยู่บ้าง พวกหม้อ ไห เก่าๆ แต่ที่สุดยอดคือ เจอกำไลข้อมือ หรือ ข้อเท้า ที่เป็นทองคำผิวเรียบๆ น้ำหนักประมาณห้าบาท แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่เจ้าของ เลยไม่ได้ครอบครอง
มีคนมาสั่งทราย ลูกน้องก็ตักไปเทให้ที่บ้านลูกค้า พอเขาตักทรายที่กองไว้ จะเอาไปใช้งานก็เจอกำไลอยู่ในกองทราย สงสัยว่าจะเป็นของเขามาตั้งแต่อดีต เลยได้กลับไปอยู่กับเขาอีกครั้ง
เก็บใบเหรียงข้างบ้านกาญจนามาอีกกำใหญ่ๆ แล้วกลับบ้าน ผสมปูนเทพื้นอีกสองชุด พ่อเดินมาดูเป็นระยะ แม่กำลังจะออกจากบ้านไปงานแต่งงาน เลยบอกว่าพรุ่งนี้อยากกินราดหน้า แม่บอกว่าได้ เดี๋ยวจะทำให้พม่าที่เทปูนกิน
ทำงานไปเรื่อยๆ ตอนเทไม่เหนื่อย เหนื่อยสุดก็ตอนที่ผสมปูน คนไปกวนมา จนเมื่อยไปหมดทั้งตัว ทำไปเรื่อยๆจนปูนหมดกระสอบ เลิกงานตอนทุ่มกว่า
กลับเข้าบ้านอาบน้ำ ทำท่าจะนอน เห็นโปรแกรมบอล อาร์เซนอลเตะตอนเที่ยงคืนครึ่ง เลยนอนดูยูทูป ดูคาราบาวยุคเก่าๆ แล้วดูบอลต่อ จนตีสองกว่า แล้วค่อยหลับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น