วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกของเมื่อวาน 18 มีนาคม 2560

บันทึกของเมื่อวาน 18 มีนาคม 2560

เช้านี้มีนกมากมายมาร้องปลุกอยู่หน้าบ้าน นกแซงแซว ร้องแกร๊กๆๆดังมาก มันมาหาหญ้าไปทำรัง เดินออกมาถ่ายรูปเก็บไว้นิดหน่อย ช่วงหลังๆมันเข้ามาอยู่ใกล้บ้านมากขึ้น คนไม่ทำอะไรมันหรอก กลัวแต่ว่าแมวจะเอาไปกินเสียก่อน

รีบกินข้าว ทอดไข่ดาวสองลูก ตามด้วยคาราบาวแดง แล้วขึ้นไปบนสวนเลย วันนี้ได้ลองใบตัดหญ้าอันใหม่ด้วย เอาแบบใบเรียวมาใช้ป้องกันหญ้าพันใบตัด ใบมีดแบบนี้ตัดดีเหมือนกันแต่ช้าไปนิด ใบมันแคบกว่าของเดิมเกือบสองนิ้ว แต่ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์ ใช้ดีอยู่เหมือนกัน

วันนี้ตัดหญ้าด้านบนสุดของสวน มองดูในห้วยต้นน้ำด้านบน ยังพอมีน้ำอยู่ ยังมีน้ำไหลมาต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มากนัก ช่วงนี้ของปีที่แล้วน้ำในสวนแห้งแล้ว เริ่มจับปลามาปล่อยในบ่อหน้าบ้านกันแล้ว แต่ปีนี้ระดับน้ำยังอยู่ในปริมาณที่น่าพอใจ ปีนี้คงจะผ่านหน้าแล้งไปได้อย่างไม่ลำบากนัก

มีคนบอกผม ถามผมอยู่ประจำ ว่าทำไมผมถึงเดือดร้อนเรื่องน้ำนัก ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้ จากที่มาทดลองทำ มาศึกษาดูแล้ว ผมก็พอจะรู้นั่นแหละว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ติดอยู่ตรงที่ไม่มีตังค์นี่ละครับ

เอาไว้ค่อยๆทำไป ปีละนิดปีละหน่อย ปีที่แล้วบ่อที่ผมขุด คูที่ผมลอกไว้ ฝายที่ผมทำไว้ ปีนี้ได้ผลตามที่คาดมีน้ำมีปลาสวยงาม ตามที่คิดไว้ ปีนี้จะทำเพิ่มอีกตามกำลังที่มี ไม่ได้จ้างใคร อีกไม่กี่ปีก็คงจะเสร็จทั้งหมด

ไม่รีบไปไหน คิดว่าจะอยู่อีกนาน

เสร็จจากบนสวน ลงมาอาบน้ำไปตลาด ไปซื้อวัสดุ ส่วนผสมมาทำฮอโมนเร่งตาดอก อันนี้เป็นสูตรจากเมือง กาญนะจ๊ะบุรี บ้านคุณนายที่บ้าน แวะซื้อข้าวหมูแดงมากิน แล้วกลับมารดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน

รดน้ำต้นไม้หน้าบ้านอยู่สองชั่วโมง อากาศมันแล้ง ต้นไม้เริ่มเหี่ยว รดน้ำตอนบ่ายสามกว่าต้องรดให้ชุ่มจริงๆ ไม่งั้นมันจะตาย เลยเปิดรด เปิดฉีด เปิดแช่ไปเต็มๆ สองชั่วโมง

ทุ่มครึ่งดูอาร์เซนอลแพ้ เวสต์บรอมไป 3:1 คือถ้าเล่นแบบนี้ถึงชนะก็ไม่น่าดู ใจไม่สู้ ผลการแข่งขันไม่สำคัญเท่าหัวใจและความสวยงามในการเล่น ผมว่าเวนเกอร์ต้องยอมรับความจริงเสียที ว่าโลกนี้มันเปลี่ยนไปมากแล้ว อดีตกับปัจจุบันมันต่างกันมาก ... วางมือเถอะให้คนอื่นมาทำทีมบ้าง

บอลจบ ยังไม่ง่วงหรือนอนไม่หลับก็ไม่รู้ ออกไปขับรถเล่น ตียิม จับโปเกม่อน แวะเข้าไปโคออฟ ยืนดูพี่เสือร้องเพลงได้แป๊บนึง ระบบไฟบนเวที ดูแปลกๆ แสบตาและไม่สวย มุมในการวางไฟมันแยงตาคนดู ก้มลงมาส่องหน้าเต็มๆ ใช้ไฟสองสี เหลืองกับแดงกระพริบไปมาจนเวียนหัว

กลับบ้าน ทั้งๆที่อยากดูต่อ ผมว่างานแสงสีพวกนี้มันเป็นงานศิลปะ ที่ต้องหาคนที่เข้าใจมันมาทำ และทำทุกครั้งต้องตั้งใจด้วย เพลงดี นักร้องดี เสียงดี แต่แสงไม่ดี ทุกอย่างก็จบ ... ใครเป็นคนคิดคนแรกว่าไฟที่สว่างมากๆ แล้วกระพริบถี่ๆ แล้วมันจะสวย ดูยิ่งใหญ่อลังการ

แสบตาจะตายห่า

กลับบ้านนอนหลับตา ยังเห็นเป็นแสงไฟวาบๆอยู่เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น