บันทึกของเมื่อวาน 3 มีนาคม 2560
เช้านี้มีงานที่ต้องทำ คือการมุดลงไปใต้บ้าน เพื่อเอายากำจัดปลวกไปโรย ตามพื้นที่ที่คิดว่าจะมีปลวก ช่วงหลังๆเริ่มสังเกตเห็นปลวกเดินอยู่บริเวณบ้าน มีการทำทางเดินอยู่หลายที่ ต้องรีบจัดการเสียก่อน ปล่อยไว้จะเสียหายมากไปกว่านี้
การที่จะเข้าไปใต้บ้านของผมนั้น ต้องลงไปในบ่อปลา แล้วมุดเข้าไป จะมีช่องให้ปีนออกไปใต้บ้าน ระหว่างที่มุดลงไปอยู่ใต้บ้าน ได้ยินเสียงคนเรียก ต้องมุดกลับออกมา แล้วก็เจอสาวอายุพอประมาณ สองคน บอกว่ามาจากที่ไหนไม่รู้จำไม่ได้ มาถามข้อมูลประชากร ... ชื่อ การศึกษา อาชีพ ประมาณนั้น เสร็จแล้วก็มุดกลับไปใหม่ หยอดยา โรยยาจนเสร็จแล้วกลับออกมา
ออกมานั่งพักกินกาแฟหน้าบ้าน นั่งคิดอะไรเล่นๆ การโรยยากำจัดปลวกครั้งนี้ก็เหมือนกับการแก้ไขปัญหาเรื่องพุทธศาสนา ที่ตอนนี้เป็นเหมือนกับปลวกที่กำลังกัดกินพระไตรปิฏกนั่นแหละ
ต้องช่วยกัน ต้องทำแบบเร่งด่วน ต้องช่วยกันหลายฝ่าย นี่ไม่นับพวกที่ไม่สนใจ ปลวกจะกินบ้าน แทะพระไตรปิฏกหรือทำอะไรก็ช่าง ไม่เกี่ยวกับเรา บ้านจะพังก็ช่างแม่ง เดี๋ยวค่อยไปหาบ้านใหม่อยู่ อันนั้นปล่อยไป เป็นสิทธ์ของเขา
ทีนี้มาว่ากันเรื่องปลวกต่อ พอมีคนจะกำจัดปลวก ที่ดันเป็นทหาร คนที่เกลียดทหาร ก็ค้านกันไป หาเหตุ หาเรื่องมาด่ากัน จนเวลาเนิ่นนานไปทุกที
ปลวกนอนกินพระไตรปิฏกอย่างสบายอารมณ์ จนหน้าจะดาษขาดไปบ้าง เป็นรูบ้าง จนอ่านไม่ออก แทบจะไม่เหลือความหมายเดิม โดยที่คนด้านนอกยังเถียงกันไม่เสร็จ บ้างก็ว่าใช้วิธีรุนแรง เผด็จการ จะฟ้องสิทธิปลวก หาว่ากลั่นแกล้งปลวก
จนถึงขนาดว่า "มึงสร้างบ้านยังไงให้ปลวกขึ้นบ้าน"
จริงๆแล้วมีคนมากมายที่เข้าข้างธรรมกายเพียงเพราะเกลียดประยุทธ เกลียด คสช หาเหตุ หาข้อมูลมาหักล้างกัน จนลืมไปว่า พระธรรมวินัย หรือศีลของพระตามที่พระพุทธเจ้าสอนคืออะไร กฏหมายบ้านเมืองคืออะไร
อ้างแต่ทำไมไม่จับคนโน้นบ้าง ทำไมไม่ไปทำตรงนั้นบ้าง แต่ไม่แก้ตรงที่เกิดปัญหา ตรงที่ปลวกทำรัง "คนอื่นเหี้ย มึงต้องเหี้ยด้วยเหรอ" อีเจี๊ยบ เลียบด่วนเคยกล่าวไว้
คนทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้น จนสุดท้ายบ้านก็พัง พุทธศาสนาก็ฉิบหายกันไปหมด ... ส่วนปลวกก็กินอิ่ม นอนหลับ สบายไป นะจ๊ะ
กินกาแฟเสร็จเข้าสวน ตัดหญ้าไปได้พักเดียว น็อตในแกนที่ใส่มาจากร้านเดิมหลุด เปลี่ยนมาเป็นแต่งกิ่งฟันต้นยางที่ล้มเข้ามา แล้วลงไปตัดกล้วยหักมุก ได้มายี่สิบหวี เอาไปให้พ่อไปสองหวี เอาไปให้ป็อก สองหวี พร้อมทั้งยกเครื่องตัดหญ้ามาให้ใส่น็อตให้ใหม่ด้วย
ฝากเครื่องตัดหญ้าไว้ที่ร้านป็อก แล้วเอากล้วยเข้ามาในตลาด มานั่งคุยที่ร้านป้าสุรีย์ แกเลี้ยงกาแฟเย็นอีกแล้ว เอาพระมาให้กับหนังสือ นั่งคุยกันกำลังมัน แกติดต่อขายกล้วยให้ได้แล้ว ต้องรีบออกมา เอากล้วยไปให้คนซื้อ ขายกล้วยมาได้ 160 บาท
กลับมาเอาเครื่องตัดหญ้า กลับบ้าน กินข้าว นอนพักเอาแรง พรุ่งนี้จะขึ้นไปตัดหญ้าแก้มือจากวันนี้ซักหน่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น